Page 32 - การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในดินทรายชายทะเลเพื่อปลูกคะน้าในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
P. 32
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
21
ต่อต้น 143 กรัม อายุตั้งแต่ปลูกถึงออกดอกประมาณ 50-55 วัน ให้ผลผลิตประมาณ 1,500-2,000
กิโลกรัมต่อไร่ เป็นพันธุ์ที่ต้านทานต่อโรคล าต้นแตก
ผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่นจะนิยมบริโภคพันธุ์ผักคะน้าที่ไม่เหมือนกัน เกษตรกรที่ปลูก
ผักคะน้าส าหรับขายจึงควรเลือกปลูกพันธุ์ตามความต้องการของตลาด ในท้องถิ่นนั้น บางท้องถิ่น
อาจจะนิยมบริโภคผักคะน้าใบ บางท้องถิ่นนิยมบริโภคผักคะน้าพันธุ์ยอด การเลือกปลูกพันธุ์ที่ตลาด
ต้องการจะไม่มีปัญหาเรื่องการขายในภายหลัง
7.3 สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม
ผักคะน้าเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ าทะเลไม่เกิน 800 เมตร
ความชื้นสัมพัทธ์ 60-80 เปอร์เซ็นต์ ผักคะน้าเป็นผักที่สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดที่มีความอุดม
สมบูรณ์สูง มีความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของดินอยู่ระหว่าง 5.5-6.8 และมีความชื้นในดินสูงสม ่า
เสมอ ค่าความเค็มของดิน (EC) อยู่ระหว่าง 6,400-7,700 พีพีเอ็ม ปริมาณอินทรียวัตถุ 2.6-3.5
เปอร์เซ็นต์ ปริมาณไนโตรเจน 2.8-3.0 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฟอสฟอรัส 0.17-0.29 เปอร์เซ็นต์ และ
ปริมาณโพแทสเซียมในดิน 1.8-2.3 เปอร์เซ็นต์ (สุนิสา, 2551) ต้องการแสงแดดเต็มที่ ผักคะน้า
สามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิเฉลี่ย 25-30 องศาเซลเซียส แต่ผักคะน้าก็สามารถทนทานต่อ
สภาพอุณหภูมิสูงได้ดี
7.4 การปลูกและการดูแลรักษา
7.4.1 การเตรียมดิน เนื่องจากผักคะน้าเป็นผักรากตื้นจึงควรขุดดินให้ลึกประมาณ
15-20 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน แล้วน าปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ที่สลายตัวดีแล้วมาใส่
คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงสภาพทางกายภาพและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน พรวน
ย่อยหน้าดินให้มีขนาดเล็ก โดยเฉพาะการปลูกแบบหว่านโดยตรงลงในแปลง เพื่อมิให้เมล็ดตกลึกลงไป
ในดิน เพราะจะไม่งอกหรืองอกยากมาก ถ้าดินเป็นกรดควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับปรุงดินให้อยู่ในสภาพที่
เหมาะสม
7.4.2 การเพาะกล้า แปลงเพาะกล้าควรมีขนาดกว้าง 1 เมตร ส่วนความยาวตาม
ความเหมาะสม การเตรียมดินบนแปลงเพาะกล้าควรขุดไถพรวนดินอย่างดี ตากดินไว้ประมาณ 5-7
วัน ย่อยหน้าดินให้ละเอียด แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วให้มาก คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน
ให้ทั่ว จากนั้นจึงหว่านเมล็ดให้กระจายสม ่าเสมอทั่วแปลง กลบเมล็ดด้วยดินผสมหรือปุ๋ยคอกที่
สลายตัวดีแล้ว ให้หนาประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบางๆ รดน ้าให้ชุ่มด้วย
บัวฝอยละเอียด ต้นกล้าจะงอกภายใน 7 วัน ดูแลต้นกล้า ถอนต้นอ่อนแอที่เบียดกันแน่นทิ้งไป ควรใส่
สารละลายสตาร์ทเตอร์โซลูชั่นรด เพื่อให้ต้นกล้าแข็งแรงสมบูรณ์ ดูแลปูองกันโรคแมลงที่เกิดขึ้น เมื่อ
กล้ามีอายุประมาณ 25-30 วัน จึงท าการย้ายไปปลูกในแปลงปลูกต่อไป
7.4.3 ระบบปลูกและระยะปลูก ระบบการปลูกผักคะน้านิยมปลูกแบบหว่าน
กระจายทั่วแปลงมากที่สุด และแบบแถวเดียวกรณีที่ย้ายกล้าหรือหยอดเมล็ดเป็นแถว การหว่านเมล็ด
กระจายทั่วแปลงเหมาะส าหรับแปลงปลูกขนาดใหญ่เป็นการค้า เช่น แปลงยกร่อง แถบภาคกลางที่
นิยมเตรียมดินโดยใช้แรงงานเครื่องจักร และให้น ้าแบบลากเรือพ่นรด ส่วนแบบแถวเดียวเหมาะ
ส าหรับแปลงปลูกขนาดเล็กหรือผักสวนครัว เตรียมดินโดยการใช้แรงงานคน และให้น ้าแบบใช้บัว