Page 31 - การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในดินทรายชายทะเลเพื่อปลูกคะน้าในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
P. 31
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
20
เพราะเป็นช่วงฤดูร้อน และฤดูฝนซึ่งมีโรคและแมลงระบาดมากท าให้ผักคะน้าจะออกสู่ตลาดน้อย
ส่วนในฤดูที่ผักคะน้าออกสู่ตลาดมาก คือ ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ท าให้ในช่วงดังกล่าว
นั้นราคาผักคะน้าจะต่ ามาก ดังนั้นเกษตรกรผู้ปลูกควรพิจารณาปลูกในช่วงฤดูร้อน และฤดูฝน จะ
ดีกว่า ซึ่งหากมีการจัดการดูแลรักษาปูองกันโรค และแมลงอย่างดีจะท าให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูง เพราะมี
ราคาสูงกว่าการปลูกในช่วงฤดูหนาว พื้นที่เพาะปลูกผักคะน้าในประเทศไทยประมาณ 92,541 ไร่
(นิรนาม, 2552) ผักคะน้าจัดเป็นผักที่สามารถปลูกและเจริญเติบโตได้ดีในดินเค็มได้แต่ต้องไม่เค็มมาก
เกินไป (คณาจารย์ภาควิชาปฐพี, 2548) ผักคะน้าเป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูง ซึ่งช่วยลด
ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งจึงได้รับความนิยมน ามารับประทานกันอย่างแพร่หลาย สามารถบริโภคทั้งต้น
และใบ ในการผลิตผักคะน้าพืชมีความต้องการธาตุอาหารไนโตรเจนสูง เนื่องจากไนโตรเจนส่งเสริมให้
พืชมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนที่นิยมใช้มีอยู่ 3 รูป คือ ยูเรีย, แอมโมเนียม และ
ไนเทรตซึ่งพืชจะดูดไปใช้ในรูปของแอมโมเนียมไอออน ไนเทรตไอออนและโมเลกุลยูเรียจาก
สารละลายของดินไปใช้ได้โดยตรง และเมื่อยูเรียแปรสภาพในดินกลายเป็นแอมโมเนียมไอออนแล้ว
ไอออนนี้จะเป็นรูปที่พืชดูดไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายเช่นกัน (ยงยุทธ และคณะ, 2554) โดยในระยะต้น
กล้าพืชสามารถดูดซึมแอมโมเนียมได้ในอัตราที่สูงกว่าไนเทรต (Serna et al., 1992) แต่ในผักโขม
(Spinacia oleracea) พบว่ามีการดูดซึมไนเทรตได้ดีกว่าแอมโมเนียม โดยอัตราแอมโมเนียมต่อ
ไนเทรต 25:75 จะให้ผลผลิตที่สูง แต่จะมีการสะสมไนเทรตในปริมาณมาก ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้บริโภค
(Conesa et al., 2009) โดยปกติปุ๋ยเคมีที่เกษตรกรในประเทศไทยใช้ พบไนโตรเจนทั้ง 3 รูป แต่มี
อัตราส่วนไนโตรเจนในแต่ละรูปแตกต่างกัน ซึ่งพืชน่าจะมีการตอบสนองต่อการเจริญเติบโตแตกต่าง
กัน (วรรณิศา และคณะ, 2557)
โดยทั่วไปการเพาะปลูกพืชผักมักประสบปัญหาหลายประการไม่ว่าจะเป็นโรค แมลงศัตรู
และวัชพืช และศัตรูทีส าคัญมากชนิดหนึ่งคือ หนอนใยผัก Diamondback moth, Plutella
xylostella L. (Lepidoptera: Plutellidae) (วินัย,2535; พรรณเพ็ญ และคณะ, 2542)
7.2 พันธุ์ผักคะน้า
พันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทยเป็นผักคะน้าดอกขาวทั้งสิ้น โดยสั่งเมล็ดจาก
ต่างประเทศเข้ามาปลูกและปรับปรุงพันธุ์ ปัจจุบันพันธุ์ผักคะน้าที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 3
พันธุ์ด้วยกัน คือ
1) พันธุ์ใบกลม มีลักษณะใบกว้างใหญ่ ปล้องสั้น ปลายใบมน และผิวใบเป็นคลื่น
เล็กน้อย ได้แก่ พันธุ์ฝางเบอร์ 1 เป็นต้น
2) พันธุ์ใบแหลม เป็นพันธุ์ที่มีลักษณะใบแคบกว่าพันธุ์ใบกลม ปลายใบแหลม มี
ข้อห่าง ผิวใบเรียบ ได้แก่ พันธุ์ P.L. 20 เป็นต้น
3) พันธุ์ยอดหรือก้าน มีลักษณะใบเหมือนกับผักคะน้าใบแหลม แต่จ านวนใบต่อต้น
จะมีน้อยกว่าพันธุ์อื่น มีปล้องที่ยาวกว่า ได้แก่ พันธุ์แม่โจ้ 1 เป็นต้น พันธุ์แม่โจ้ 1 เป็นพันธุ์ที่มี
ลักษณะตรงกับความนิยมของผู้บริโภคล าต้น เป็นล าต้นเดี่ยว อวบ ส่วนกลางปุองใหญ่ ใบเรียบ ปลาย
ใบแหลมตั้งชี้ขึ้น ก้านใบบาง ช่วงข้อยาว มีน ้าหนักส่วนที่เป็นล าต้นและก้านมากกว่าใบ ให้ผลผลิตสูง
ทุกภาคตลอดปี อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 45-48 วัน ขนาดล าต้นสูงเฉลี่ย 33.40 เซนติเมตร ขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลางของล าต้นส่วนที่ใหญ่ที่สุด คือ 2 เซนติเมตร จ านวนใบต่อต้นเฉลี่ย 9 ใบ น ้าหนักเฉลี่ย