Page 35 - ศึกษาการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา และปูนโดโลไมท์ต่อการควบคุมปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน
P. 35

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                          24




                  ตารางที่ 8 ปริมาณฟอสฟอรัสของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนที่ระยะเวลา 30 และ 60 วัน

                                                                                        30 วัน       60 วัน
                                             ต ารับการทดลอง
                                                                                       หลังหมัก     หลังหมัก

                   1. ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน                                              0.63        5.82
                   2. ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน+เชื้อราไฟทอฟธอรา                             0.79        7.06
                   3. ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน+เชื้อราไฟทอฟธอรา+ปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์    0.64       6.38

                   4.  ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน+เชื้อราไฟทอฟธอรา+ปูนโดโลไมท์  2 เปอร์เซ็นต์   0.69      6.71
                      +เชื้อราไตรโคเดอร์มา

                                                 F-test                                   ns          ns
                                                C.V. (%)                                 6.24        16.81
                  หมายเหตุ ns = ไม่แตกต่างกันทางสถิติ


                         3.6 ปริมาณโพแทสเซียม (K O) ของปุ๋ยหมัก
                                                 2
                             ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนที่ระยะเวลา 30 วัน พบว่า มีปริมาณโพแทสเซียมไม่มีความแตกต่างกัน

                  ทางสถิติ อยู่ในระหว่าง 2.52–3.07 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนที่ระยะเวลา 60 วัน มีปริมาณ
                  โพแทสเซียมไม่แตกต่างกันทางสถิติ มีค่าอยู่ระหว่าง 3.09–4.06 เปอร์เซ็นต์ (ตารางที่ 9)
                             ส าหรับปริมาณโพแทสเซียมที่เก็บข้อมูลจากกองปุ๋ยหมักที่ระยะเวลา 30  และ 60  วัน พบว่า
                  มีปริมาณของโพแทสเซียมเพิ่มขึ้น ซึ่งต ารับที่มีการใส่ปูนโดโลไมท์ และเชื้อราไตรโคเดอร์มามีผลต่อการเพิ่มขึ้น
                  ของปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในกองปุ๋ยหมักอยู่ในระดับสูงสุด 4.06 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเชื้อรา

                  ไตรโคเดอร์มามีการสร้างเอนไซม์เซลลูเลส ไซแลนเนส โปรติเอส และยูรีเอส สามารถย่อยสลายสารประกอบ
                  คาร์โบไฮเดรตและโปรตีน ที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนจะมีอัตราการสลายตัวเร็ว ท าให้มีการปลดปล่อย
                  โพแทสเซียมออกมา (เฉลิมชัย และคณะ, 2557)  จากผลการทดลอง พบว่า ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนมีปริมาณ

                  โพแทสเซียมสูงทุกต ารับการทดลอง เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้หมักปุ๋ยมีปริมาณโพแทสเซียมสูง (ตารางภาคผนวกที่
                  1 2)
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40