Page 38 - ศึกษาการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา และปูนโดโลไมท์ต่อการควบคุมปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน
P. 38
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
27
สรุปผลการทดลอง
1. การศึกษาผลการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาและปูนโดโลไมท์ต่อการควบคุมปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอรา
ของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน หลังจากหมักปุ๋ยเปลือกทุเรียนที่เสร็จสิ้นแล้วระยะ 60 วัน พบว่า ต ารับที่มีการใส่
เชื้อราไตรโคเดอร์มา สามารถควบคุมปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราในกองปุ๋ยหมักได้ตั้งแต่ระยะการหมักปุ๋ย
ที่ระยะเวลา 30 วัน และลดปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับต ารับอื่นๆ หลังเสร็จสิ้น
กระบวนการหมักปุ๋ย นอกจากนี้ต ารับที่มีการใส่ปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ สามารถลดปริมาณเชื้อรา
ไฟทอฟธอราได้ดีกว่าต ารับที่ไม่มีการใส่ปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์
2. อุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักตลอดระยะเวลาการทดลองพบว่า อุณหภูมิเริ่มต้นเฉลี่ย 35.50
องศาเซลเซียส และเพิ่มสูงสุดที่ 15 วัน เฉลี่ย 39.53 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น อุณหภูมิค่อยๆ ลดลง
จนสิ้นสุดกระบวนการย่อยสลายมีค่าเฉลี่ย 31.95 องศาเซลเซียส
3. ส าหรับค่าวิเคราะห์ทางเคมีของปุ๋ยหมักที่ระยะเวลา 30 และ 60 วัน พบว่าปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนที่
ใส่เชื้อราไฟทอฟธอราผสมปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ และเชื้อราไตรโคเดอร์มา พบว่า ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
ของปุ๋ยหมักลดลงจาก 8.20 เป็น 7.93 มีปริมาณอินทรียวัตถุลดลงจาก 83.45 เป็น 31.59 เปอร์เซ็นต์ และมี
ปริมาณแมกนีเซียมสูงขึ้นจาก 0.79 เป็น 5.30 เปอร์เซ็นต์ ส าหรับค่าอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจน
ปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และแคลเซียม ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ซึ่งสมบัติดังกล่าว
ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการรับรองปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
ข้อเสนอแนะ
1. ควรตั้งกองปุ๋ยหมักให้มีความสูงของกองไม่น้อยกว่า 1 เมตร เนื่องจากมีผลการควบคุมอุณหภูมิให้
เหมาะสมต่อกระบวนการย่อยสลายโดยกิจกรรมจุลินทรีย์ จะเห็นได้ว่าความสูงของกองปุ๋ยหมักในการวิจัยนี้มี
ความสูงเพียง 30 เซนติเมตร
2. ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับใส่เชื้อราไตรโคเดอร์มาในกองปุ๋ยหมักเพียงอย่างเดียวและใช้
ปูนโดโลไมท์แยกต่างหากเพื่อปูองกันผลกระทบของปูนโดโลไมท์ที่มีผลต่อเชื้อราไตรโคเดอร์มาโดยตรงใน
กองปุ๋ยหมัก
3. ควรมีการเก็บตัวอย่างวัสดุก่อนการทดลองและหลังจากใส่ปัจจัยต่างๆ ตามต ารับการทดลอง เพื่อ
ศึกษาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพ และสมบัติทางเคมีของปุ๋ยหมัก