Page 26 - ศึกษาการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา และปูนโดโลไมท์ต่อการควบคุมปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน
P. 26
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
15
ผลการทดลองและวิจารณ์
จากการศึกษาการใช้เชื้อราไตรโครเดอร์มาและปูนโดโลไมท์ต่อการควบคุมปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอรา
ของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน มีผลการศึกษาวิจัยมีดังนี้
1. สมบัติทางชีวภาพของปุ๋ยหมัก
จากการเก็บตัวอย่างปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนทั้ง 4 ต ารับ ที่ระยะเวลาการหมัก 30 และ 60 วัน
เพื่อวิเคราะห์หาปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอรา และเชื้อราไตรโคเดอร์มา ได้ผลดังนี้
1.1 ปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน
ที่ระยะเวลาหมักปุ๋ย 30 วัน จากการศึกษาพบว่าปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราแตกต่างกันทางสถิติ
อย่างมีนัยส าคัญยิ่ง โดยต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนผสมกับเชื้อราไฟทอฟธอรา มีปริมาณเชื้อรา
ไฟทอฟธอรามากที่สุด คือ 6.17 log no. ต่อกรัมวัสดุ รองลงมาได้แก่ ต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนใส่
เชื้อราไฟทอฟธอรา ร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ มีเท่ากับ 3.37 log no. ต่อกรัมวัสดุ ส่วนต ารับที่มีการใช้
ปุ๋ยหมักจากเปลือกทุเรียนอย่างเดียว มีเท่ากับ 2.33 log no. ต่อกรัมวัสดุ และต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมัก
เปลือกทุเรียนใส่เชื้อราไฟทอฟธอรา ร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ และเชื้อราไตรโคเดอร์มา มีปริมาณ
เชื้อราไฟทอฟธอราต่ าที่สุด เท่ากับ 0.83 log no. ต่อกรัมวัสดุ (ตารางที่ 1)
ที่ระยะเวลาหมักปุ๋ย 60 วัน จากการศึกษาปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียน
พบว่า มีปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอรา แตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยส าคัญยิ่ง โดยต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมักเปลือก
ทุเรียนผสมกับเชื้อราไฟทอฟธอรา มีปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอรามากที่สุด เท่ากับ 4.80 log no. ต่อกรัมวัสดุ
รองลงมาได้แก่ ต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนใส่เชื้อราไฟทอฟธอรา ร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งไม่แตกต่างทางสถิติกับต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมักจากเปลือกทุเรียนเดียวอย่างเดียว มีปริมาณเชื้อรา
ไฟทอฟธอรา มีค่าเท่ากับ 3.03 และ 2.23 log no. ต่อกรัมวัสดุ ตามล าดับ ส่วนต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมัก
เปลือกทุเรียนใส่เชื้อราไฟทอฟธอรา ร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ และเชื้อราไตรโคเดอร์มา มีปริมาณ
เชื้อราไฟทอฟธอราน้อยที่สุด คือ 0.33 log no. ต่อกรัมวัสดุ (ตารางที่ 1)
จากการเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราที่ช่วงเวลาการหมัก 30 และ
60 วัน พบว่า ปริมาณเชื้อราไฟทอปธอราของต ารับที่ใช้ปุ๋ยหมักจากเปลือกทุเรียนอย่างเดียว ต ารับที่มีการใช้
ปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนใส่เชื้อราไฟทอฟธอราร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ และต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมัก
เปลือกทุเรียนใส่เชื้อราไฟทอฟธอราร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ และเชื้อราไตรโคเดอร์มา ไม่เปลี่ยนแปลง
มากนัก ในขณะที่ต ารับการทดลองที่ใช้ปุ๋ยหมักจากเปลือกทุเรียนร่วมกับเชื้อราไฟทอฟธอรา พบว่า ปริมาณ
เชื้อราไฟทอฟธอราที่ช่วงเวลาหมัก 60 วัน มีจ านวนลดลงเมื่อเปรียบเทียบจากค่าที่ตรวจวัดที่ช่วงเวลาหมัก
30 วัน ผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า การใส่ปูน และเชื้อราไตรโคเดอร์มา ในต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมัก
เปลือกทุเรียนใส่เชื้อราไฟทอฟธอราร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ และต ารับที่มีการใช้ปุ๋ยหมัก
เปลือกทุเรียนใส่เชื้อราไฟทอฟธอราร่วมกับปูนโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ และเชื้อราไตรโคเดอร์มา มีผลในการ
ยับยั้งปริมาณเชื้อราไฟทอฟธอราในปุ๋ยหมัก ซึ่งสอดคล้องกับ เสียงแจ๋ว (2549) และกนกนาฏ (2540)