Page 27 - ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ต่อการปลูกคะน้าในชุดดินบางกอก
P. 27
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
17
อริสสรา และคณะ (2557) ได้ท าการศึกษาผลการใช้วัสดุอินทรีย์และระบบการไม่ไถพรวน
ต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติดินบางประการในดินนาเค็มน้อย พบว่า การใช้วัสดุอินทรีย์ร่วมกับระบบ
การไม่ไถพรวนท าให้ความเค็มของดินลดลง ปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีค่าเพิ่มขึ้น 45-46 เปอร์เซ็นต์
และมีวัสดุอินทรีย์สะสมในดินเพิ่มขึ้น ดังนั้นการใส่วัสดุอินทรีย์ร่วมกับการไม่ไถพรวนท าให้ดินเค็มมี
สมบัติดีขึ้นเหมาะสมต่อการปลูกข้าว
อโนชา และ กมลาภา (2553) ได้ศึกษาผลของการปรับปรุงบ ารุงดินต่อการเจริญเติบโต
และผลผลิตของคะน้า แตงกวา และ ถั่วฟักยาว ที่ปลูกบนดินถมที่เกิดจากตะกอนดินชั้นล่าง พบว่า
การใส่ปุ๋ยหมัก 4 ตันต่อไร่ ร่วมกับน้ าหมักชีวภาพและปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งตามค าแนะน า ท าให้
พืชผักที่ปลูกมีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตรวมของพืชผักเฉลี่ย 2 ปี สูงสุด จ านวน 2,935.16
กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนการใส่ปุ๋ยเคมีตามค าแนะน าให้ผลผลิตรวมของพืชผักเฉลี่ย 2,181.06 กิโลกรัมต่อ
ไร่ ใกล้เคียงกับการใส่ปุ๋ยพืชสดร่วมกับน้ าหมักชีวภาพละปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งตามค าแนะน า ที่ให้ผล
ผลิตพืชผักรวมเฉลี่ยต่ าสุด 2,164.87 กิโลกรัมต่อไร่ ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่า การใส่ปุ๋ยหมัก
4 ตันต่อไร่ ร่วมกับน้ าหมักชีวภาพและปุ๋ยเคมีอัตราครึ่งหนึ่งตามค าแนะน าให้ผลตอบแทนทาง
เศรษฐกิจเฉลี่ย 2 ปี สูงสุดให้ผลตอบแทนจ านวน 14,278.69 บาทต่อไร่