Page 58 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 58
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
47
เมื่อเปรียบเทียบกับปุ๋ยเคมี ดังนั้น จึงไม่สามารถปรับสมดุลของธาตุอาหารในดินได้ ส่งผลให้ได้ผลผลิตพืชต่่า
แล้วยังอาจท่าให้พืชมีการสะสมธาตุอาหารบางตัวมากเกินไป เช่น ในกรณีที่ดินขาดธาตุฟอสฟอรัสอย่างรุนแรง
แล้วพยายามใส่ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีธาตุไนโตรเจนมากแต่มีปริมาณธาตุฟอสฟอรัสน้อย ถ้าหากใส่ปุ๋ยมูลไก่ลงไปเพื่อ
มุ่งหวังแก้ปัญหาการขาดธาตุฟอสฟอรัส แต่ในปุ๋ยมูลไก่ส่วนใหญ่มีธาตุไนโตรเจนในสัดส่วนที่สูงและมีธาตุ
ฟอสฟอรัสในสัดส่วนที่ต่่า เมื่อใส่ปุ๋ยมูลไก่ลงไปในดินในปริมาณที่สูงอาจท่าให้ดินมีปริมาณไนโตรเจนเกิน
ความต้องการของพืช ขณะที่ยังมีปริมาณธาตุฟอสฟอรัสไม่เพียงพอ สภาพเช่นนี้ท่าให้พืชเจริญเติบโตไม่
เต็มที่และต้องการไนโตรเจนน้อย แต่ดินมีการปลกปล่อยไนเตรทมาก พืชดูดเข้าไปมากจนเกินความต้องการ
และเกิดการสะสมในพืช จนอาจเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ที่กินพืชนั้น (กรมวิชาการเกษตร, 2548ข;
อ่านาจ, 2548) ดังนั้นในการแก้ปัญหาดินที่ขาดธาตุอาหารควรค่านึงถึงสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์ว่ามีปริมาณธาตุ
อาหารที่ขาดมากเพียงพอต่อการแก้ปัญหา โดยอาจวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของปุ๋ยอินทรีย์ก่อนที่จะน่าไปใช้
เพื่อจะได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในปริมาณที่เหมาะสมกับพืช และไม่ก่อเกิดปัญหาการตกค้างของธาตุอื่นๆ ที่มี
ผลกระทบต่อคนและสัตว์ที่กินพืชนั้น
5.8 ปุ๋ยอินทรีย์มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาการชะล้างไนเตรทสู่แหล่งน้่า เนื่องจากส่วนใหญ่ของธาตุ
อาหารในปุ๋ยอินทรีย์อยู่ในรูปที่พืชดูดไม่ได้และจะต้องรอจนกว่าปุ๋ยจะสลายตัว เพื่อให้ธาตุอาหารถูก
เปลี่ยนเป็นรูปที่พืชดูดใช้ได้ ท่าให้ปุ๋ยอินทรีย์มีการปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาให้พืชใช้ได้อย่างช้าๆ ดังนั้น
การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ให้แก่พืชจึงจ่าเป็นต้องใส่ปุ๋ยก่อนปลูกพืชหรือก่อนระยะที่พืชต้องการธาตุอาหาร และมักมี
การแนะน่าให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ก่อนปลูกพืช อย่างไรก็ตามเมื่อใส่ปุ๋ยแล้วเกิดสภาพฝนแล้งท่าให้พืชไม่สามารถ
เจริญเติบโตต่อไปได้และตายในที่สุด เมื่อฝนตกในระยะต่อมาท่าให้ดินมีความชื้นแต่ไม่มีพืชที่ปลูกอยู่แล้ว
ดังนั้น เมื่อปุ๋ยอินทรีย์ก็จะปลดปล่อยธาตุอาหารรวมทั้งไนโตรเจนออกมาสู่ดินโดยกิจกรรมจุลินทรีย์และสะสม
ในดิน โดยไม่มีพืชดูดไปใช้จึงอาจท่าให้ไนเตรทถูกชะล้างลงสู่แหล่งน้่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ได้
(กรมวิชาการเกษตร, 2548ข; อ่านาจ, 2548) ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาการชะล้างไนเตรทสู่
แหล่งน้่า การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ให้แก่พืชต้องค่านึงถึงความชื้นของดินที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชและ
กิจกรรมของจุลินทรีย์
5.9 ปุ๋ยอินทรีย์ท่าให้เกิดก๊าซเรือนกระจกออกจากดิน เนื่องจากใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทุกชนิดกระตุ้นให้
จุลินทรีย์เจริญเติบโตมากขึ้น ท่าให้ดินสภาพที่มีน้่าขังปรับสู่สภาพอับอากาศหรือสภาพที่มีออกซิเจนไม่
เพียงพอรุนแรงขึ้นและดินดอนปรับสู่สภาพอับอากาศในบางส่วนของมวลดิน เช่น ส่วนในของเม็ดดินรุนแรง
ขึ้นเกิดสภาพรีดักชันรุนแรงที่เกื้อหนุนการเกิดก๊าซมีเทนและไนตรัสออกไซด์ในดินซึ่งก๊าซทั้งสองชนิดนี้เป็น
ก๊าซเรือนกระจก เมื่อระเหยสู่บรรยากาศท่าให้เกิดปรากฏการณ์โลกร้อน โดยเฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ที่มีอัตราส่วน
ระหว่างคาร์บอนกับไนโตรเจนสูงและเศษพืชที่ยังสลายตัวหรือสลายตัวไปเพียงบางส่วนจะมีผลต่อการเกิดก๊าซ
ดังกล่าวมากกว่าปุ๋ยอินทรีย์มีอัตราส่วนระหว่างคาร์บอนกับไนโตรเจนต่่าและฟางข้าวมีผลมากกว่าต้นและใบ
พืชตระกูลถั่ว (กรมวิชาการเกษตร, 2548ข; อ่านาจ, 2548) ดังนั้นเพื่อลดการเกิดโลกร้อนจึงควรใช้ใช้ปุ๋ย
อินทรีย์ที่สลายตัวสมบูรณ์โอกาสการเกิดก๊าซเรือนกระจกทั้งสองชนิดจะน้อยลง นอกจากนี้การจัดการน้่า
อย่างเหมาะสมจะลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทนจากแปลงนาได้อย่างต่อเนื่อง เช่น มีการระบายน้่าระหว่างฤดู