Page 53 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 53
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
42
สามรูป คือ กลุ่มอินทรียวัตถุในดินที่มีการแปรรูปรวดเร็ว (active fraction)กลุ่มอินทรียวัตถุในดินที่มีการแปร
รูปช้า (slow fraction) และกลุ่มอินทรียวัตถุในดินที่มีการแปรรูปเฉื่อย (passive fraction)กลุ่มอินทรียวัตถุ
ในสัดส่วนมากน้อยเท่าไรจะต้องขึ้นอยู่กับสัดส่วนของอัตราการเติมใส่อินทรียวัตถุเทียบกับอัตราการสูญเสีย
จากการถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ดิน ซึ่งกลุ่มอินทรียวัตถุแต่ละกลุ่มมีค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน ที่
สามารถน่ามาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจการใช้อินทรียวัตถุ เพื่อให้ใช้ให้ตรงตามจุดประสงค์ที่ต้องการ ดังนี้
10.1 เป็นวัสดุคลุมดิน ดังนั้นการใช้เศษซากสิ่งมีชีวิตจะต้องมีค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนมากๆ
โดยมีค่ามากกว่า 30 จนเป็นร้อย เช่น ชิ้นไม้ เปลือกไม้ และขี้เลื่อย เป็นต้น โดยต้องใส่ที่ผิวดินและให้อยู่ใน
สภาพแห้ง เพื่อให้ถูกจุลินทรีย์ดินย่อยสลายได้อัตราต่่าที่สุด การใช้ในจุดประสงค์นี้เพื่อป้องกันผิวหน้าดินใน
การักษาความชื้นในดิน โดยไม่ได้มุ่งหวังในเรื่องธาตุอาหาร
10.2 ปรับโครงสร้างดินและกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมของจุลินทรีย์ให้เกิดขึ้นอย่างมากมาย ดังนั้นการใช้
กลุ่มอินทรียวัตถุต้องที่มีค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนอยู่ในช่วง 15 – 30 เรียกว่า กลุ่มอินทรียวัตถุใน
ดินที่มีการแปรรูปรวดเร็ว (active fraction) เมื่อใส่คลุกเคล้ากับดินจะกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มปริมาณและ
กิจกรรมของจุลินทรีย์ดินในกระบวนการย่อยสลายอินทรียวัตถุในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่าให้เกิด
สารอินทรีย์ที่หลากหลายและจ่านวนมากและการสร้างสารเชื่อมโดยจุลินทรีย์ มีผลท่าให้ดินเหนียวเกาะยึด
กันเป็นเม็ดดินหรือรวมตัวกับอนุภาคต่างๆ ในดิน โดยที่ปริมาณของอินทรียวัตถุกลุ่มนี้ลดปริมาณอย่าง
รวดเร็วและหมดไปภายในระยะเวลามีไม่นาน เพราะมีสารประกอบที่สิ่งมีชีวิตในดินสามารถน่าไปใช้ได้
ปริมาณมากและอยู่ในรูปที่ใช้ง่าย ได้แก่ น้่าตาล แป้งและโปรตีน ดังนั้นการรักษาระดับกิจกรรมของจุลินทรีย์
ในดินให้สูงอยู่ได้ ท่าโดยการเติมอินทรียวัตถุลงในดินอย่างสม่่าเสมอและต่อเนื่อง
10.3 ความอุดมสมบูรณ์ของดิน คือ เป็นแหล่งของธาตุอ่าหารพืช ดังนั้นการใช้กลุ่มอินทรียวัตถุต้องที่มี
ค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนอยู่ในช่วง 10 – 25 เรียกว่า กลุ่มอินทรียวัตถุในดินที่มีการแปรรูปช้า
(slow fraction)ซึ่งมีปริมาณคาร์บอนปานกลางควบคู่กับที่มีปริมาณไนโตรเจนมากเกินพอกับความต้องการ
ของจุลินทรีย์ดิน เป็นอินทรียวัตถุที่ผ่านการย่อยสลายส่วนหนึ่งมาก่อน ท่าให้อินทรียวัตถุกลุ่มนี้ท่าหน้าที่เป็น
ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีบทบาทในการเป็นแหล่งธาตุอาหารไนโตรเจนและซัลเฟตเป็นหลัก ให้ฟอสฟอรัสรองลงมาและ
ให้จุลธาตุทุกชนิด โดยปริมาณอินทรียวัตถุในกลุ่มนี้มีอายุคงทนในดินได้นานเป็นสิบปี เพราะเป็นอินทรียวัตถุ
ที่รวมชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อพืชที่มีขนาดละเอียดมาก มีปริมาณลิกนินและสารประกอบที่สลายได้ยากอยู่มาก
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารที่รักษาให้กิจกรรมของจุลินทรีย์ดินด่าเนินได้ในอัตราคงที่ต่อเนื่องเป็นระยะ
เวลานาน
10.4 การดูดซับธาตุอาหารและความคงทนของก้อนดิน ดังนั้นการใช้กลุ่มอินทรียวัตถุต้องที่มีค่า
อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนอยู่ในช่วงไม่เกิน 10 เรียกว่า กลุ่มอินทรียวัตถุในดินที่มีการแปรรูปเฉื่อย
(passive fraction) เป็นอินทรียวัตถุที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายแล้วอย่างมาก จนเหลือเฉพาะสารที่มีรูป
คงทน ซึ่งสามารถอยู่ในดินได้เป็นร้อยถึงพันปี สารที่เหลือรวมกัน เรียกว่า ฮิวมัส ซึ่งแทรกซึมกับอนุภาคดิน
อย่างเหนียวแน่น ท่าให้จุลินทรีย์ดินเข้าถึงได้ยาก จึงถูกน่าออกมาย่อยสลายต่อได้ในอัตราที่ช้ามาก ปริมาณ
ของฮิวมัสมีประมาณร้อยละ 60 – 90 ของอินทรียวัตถุในดินทั่วไป คุณสมบัติของฮิวมัสมีขนาดเล็ก เป็นสาร
แขวนลอยและที่ผิวมีประจุเป็นบวกและลบจ่านวนมาก ท่าให้มีบทบาทในการดูดซับธาตุอาหารต่างๆ และ
เพิ่มความคงทนของก้อนดิน ท่าให้โครงสร้างดินพัฒนาเป็นแบบเม็ดกลมเล็ก ซึ่งช่วยลดช่องว่างขนาดใหญ่
และลดการสูญเสียธาตุอาหารของพืชจากการชะล้างของ