Page 55 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 55
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
44
3.3. ปุ๋ยอินทรีย์ต่อสมบัติทางเคมีของดิน
โดยเหตุที่ปุ๋ยอินทรีย์มีปริมาณเกลือที่ละลายน้่าได้ต่่าและสลายตัวให้ฮิวมัสซึ่งมีความจุในการ
แลกเปลี่ยนประจุบวกสูง จึงปรากฏต่อสมบัติทางเคมีของดินในลักษณะเอื้ออ่านวยต่อการเจริญเติบโตของพืช
ดีขึ้น เนื่องจากในปุ๋ยมีอินทรีย์สารที่มีต่าแหน่งของการแลกเปลี่ยนประจุบวกและลบในปริมาณสูงมาก ท่าให้
ดินมีความสามารถดูดซับธาตุอาหารพืชได้สูง ซึ่งช่วยลดการสูญเสียธาตุอาหารพืชและพืชสามารถใช้
ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะดินทราย นอกจากนี้ช่วยควบคุมความเป็นกรดเป็นด่างของดินไม่
เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลันและให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช
ในบางกรณีปุ๋ยอินทรีย์บางชนิดอาจมีปริมาณธาตุอาหารบางธาตุสูงมากและอัตราส่วนระหว่าง
คาร์บอนกับไนโตรเจนแคบจึงสลายตัวง่าย ซึ่งจะท่าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างฉับพลัน ในลักษณะ
เช่นนี้จะท่าให้เกิดอันตรายต่อพืช โดยความร้อนที่เกิดจากการสลายตัวอย่างรวดเร็ว และส่าหรับปุ๋ยอินทรีย์ที่
มีอัตราส่วนระหว่างคาร์บอนกับไนโตรเจนกว้าง เมื่อใส่ลงในดินจะท่าให้เกิดการขาดธาตุไนโตรเจนอย่าง
รุนแรงในระหว่างการสลายตัว ปุ๋ยอินทรีย์จากซากพืชบางอย่างอาจมีแทนนินและสารอื่นๆ เป็นองค์ประกอบ
ค่อนข้างสูง อาจเป็นพิษกับพืชได้ถ้าปุ๋ยนั้นยังสลายตัวไม่สมบูรณ์ ดังนั้นควรให้ปุ๋ยอินทรีย์มีการสลายตัวอย่าง
สมบูรณ์ก่อนน่าไปใช้ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปจะไม่พบว่าผลตกค้างจากปุ๋ยอินทรีย์มีผลเสียต่อการเจริญเติบโต
ของพืช (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2541)
3.4 ปุ๋ยอินทรีย์ต่อสมบัติทางกายภาพของดิน
เนื่องจากอินทรีย์สารในปุ๋ยอินทรีย์มีความสามารถในการอุ้มน้่าสูงและมีแรงยึดเหนียวระหว่าง
อนุภาคที่พอเหมาะ จึงปรากฏว่าเมื่อใส่ลงในดินจะท่าให้ดินอุ้มน้่าดีขึ้นและปริมาณความชื้นที่เป็นประโยชน์
ต่อพืชสูงขึ้น ท่าให้ดินที่มีอนุภาคหยาบเกาะตัวกันดีขึ้น ส่วนดินเหนียวจะร่วนขึ้น มีการระบายน้่าและ
อากาศดีขึ้น ความหนาแน่นลดลง ไม่แข็งเมื่อแห้ง และไม่จับติดเครื่องมือไถพรวนเมื่อมีความชื้นสูง อย่างไร
ก็ดีผลของปุ๋ยอินทรีย์ต่อสมบัติทางกายภาพของดินจะไม่เป็นผลที่ยั่งยืนถาวร ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดของ
ปุ๋ยที่ใช้ ความถี่ในการใส่และอัตราการสลายตัวขององค์ประกอบของปุ๋ยอินทรีย์ เช่น พวกที่มีองค์ประกอบ
ของ humic type อยู่สูงจะช่วยรักษาสภาพทางกายภาพของดินให้ดีอยู่ได้นาน ซึ่งพวกนี้มักได้มาจากสารที่มี
aromatic compound เป็นองค์ประกอบอยู่เป็นจ่านวนมาก แต่อินทรีย์สารบางแหล่ง เช่น ใบของพวก
mints (กระเพรา สะระแหน่) พวกสนและยูคาลิปตัส มีสารประกอบประเภทไขมันและสารประกอบ
nonpolar hydrophobic อื่นๆ อยู่มาก ถ้าน่ามาท่าปุ๋ยอินทรีย์และย่อยสลายไม่สมบูรณ์ เมื่อน่าไปใช้อาจ
ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของพืช เพราะสารที่อยู่ในอินทรีย์สารเหล่านี้ค่อนข้างคงทนจึงมิได้ถูกย่อยสลาย
ได้ง่าย เมื่อดินได้รับแสงแดด อุณหภูมิสูงขึ้น สารเหล่านี้จะหลอมตัวเคลือบอนุภาคของดินบางส่วนไว้ ท่าให้
อนุภาคของดินเหล่านั้นไม่เปียกน้่าโดยง่ายและไม่อุ้มน้่าซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิต
ของพืชได้ อย่างไรก็ตามผลเสียที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่นาน เมื่อสารเหล่านี้ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ ท่า
ให้สมบัติของดินกลับคืนมาเป็นปกติ (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2541)