Page 159 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 159
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
148
เฉลี่ย 30 และ 313 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามล่าดับ 2) การใช้ระบบข้าวโพด-ถั่วเหลือง-ข้าวโอ๊ต ร่วม
กับอัลฟัลฟา และ 3) การใช้ป๋ยหมักจากมูลสุกรกับตอซังข้าวโพด ซึ่งมีธาตุหลัก คือ 7.8 กรัมNต่อกิโลกรัม
9.6 กรัมPต่อกิโลกรัม และ 13.7 กรัมKต่อกิโลกรัม โดยอัตราปุ๋ยหมักที่ใช้ค่านวณเป็นกิโลกรัมNต่อไร่ โดยใน
ปีแรกใช้อัตรา 28 กิโลกรัมNต่อไร่ ส่วนปีที่ 2-4 ใช้ปีละ 21.4 กิโลกรัมNต่อไร่ ผลการทดลองสรุปได้ว่า ทั้ง
ข้าวโพดและถั่วเหลืองที่ปลูกระบบเกษตรอินทรีย์ในช่วงเปลี่ยนแปลง 3 ปี และ 1 ปีที่เป็นเกษตรอินทรีย์เต็ม
รูปแบบนั้น ให้ผลผลิตใกล้เคียงกับการปลูกและบ่ารุงดินแบบปรกติ ซึ่งให้ยูเรีย-แอมโมเนียมไนเทรตอัตรา
21.4 กิโลกรัมNต่อไร่ เช่นเดียวกัน
ส่าหรับด้านความอุดมสมบูรณ์ของดินนั้น พบว่า การบ่ารุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และใช้ระบบการปลูก
พืชหมุนเวียนตามที่ระบุไว้ ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3 ปีแรก ดังนี้คือ อินทรีย์คาร์บอนทั้งหมดใน
ดินบนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 (จาก 21.4 กรัมCต่อกิโลกรัม ในปีที่ 3) นอกจากนี้การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในระบบการปลูก
พืชหมุนเวียน ยังช่วยให้ความหนาแน่นรวมของดินต่่า คือ ค่า 1.22 – 1.25 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตรเท่านั้น
ผลการเปรียบเทียบความอุดมสมบูรณ์ของดินระหว่างปีที่ 1 และปีที่ 4 แสดงไว้ในตารางที่ 8.3
ตารางที่ 8.3 เปรียบเทียบความอุดมสมบูรณ์ของดินในแปลงทดลองปลูกพืชหมุนเวียนในระบบเกษตร
อินทรีย์ในปีที่ 1 (พ.ศ. 2541) กับปีที่ 4 (พ.ศ. 2544) ในเรื่องอินทรีย์คาร์บอนทั้งหมด
(TOC) ไนโตรเจนทั้งหมด (TN) ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม
(Ca) และแมกนีเซียม (Mg) ที่แลกเปลี่ยนได้ของดินระดับความลึก 0-15 ซม.
ผลการวิเคราะห์ พ.ศ. C-S* C-S-O/A* C-S-O/A-A* S-R*
TOC (ก./กก.) 2541 23.8 25.0 24.6 23.4
2544 24.9 26.3 26.1 25.7
TN (ก./กก.) 2541 1.7 1.7 1.8 1.9
2544 2.2 2.3 2.4 2.3
P (มก./กก.) 2541 35 51 45 28
2544 40 85 61 34
K (มก./กก.) 2541 331 361 355 248
2544 267 308 320 215
Ca (มก./กก.) 2541 2,973 2,972 3,131 3,241
2544 3,297 3,657 3,740 3,831
Mg (มก./กก.) 2541 294 281 270 336
2544 308 315 340 389
*C= ข้าวโพด, S = ถั่วเหลือง, O= ข้าวโอ๊ต, A= อัลฟัลฟา, R= ข้าวไรต์
ที่มา : Delate and Cambradella (2004)