Page 125 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 125
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
114
สดได้โดยการตัดแต่งกิ่งก้านและยอดอ่อนของพืชเหล่านั้นมาใส่ในแปลงปลูกพืชหลัก แล้วท่าการสับกลบ
วิธีการปลูกพืชปุ๋ยสดเป็นแถบพืชนิยมท่ากันในแถบภาคเหนือของประเทศไทยหรือพื้นที่ที่มีความลาดชัน 30 –
40 เปอร์เซ็นต์
4.4 การปลูกพืชปุ๋ยสดในระบบพืชคลุมดิน (Cover cropping) การปลูกพืชในระบบนี้มักเป็น
การปลูกพืชปุ๋ยสดตระกูลถั่วชนิดที่มีล่าต้นเป็นเถาเลื้อย เพื่อให้เจริญเติบโตปกคลุมผิวดิน ท่าให้น้่าฝนที่ตก
ลงมากระทบผิวดินไม่รุนแรง เพราะจะกระทบถูกกิ่งใบของพืชปุ๋ยสดก่อนถึงดินช่วยมิให้เกิดการชะล้างหน้า
ดินได้ พืชปุ๋ยสดใช้ปลูกกันในระบบนี้ ได้แก่ ถั่วคาโลโปโกเนียม ถั่วคุดซู ถั่วฮามาต้า ไมยราบไร้หนาม และถั่ว
แปบ เป็นต้น อย่างไรก็ตามพืชตระกูลถั่วที่มีล่าต้นเตี้ยเป็นทรงพุ่ม ก็สามารถปลูกเป็นพืชคลุมดินได้ เข่น ถั่ว
พร้า ถั่วพุ่ม เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันก่าจัดวัชพืช ปรับปรุงบ่ารุงดิน และรักษาความชื้นของดิน
ภาพที่ 6.3 ระบบปลูกพืชแบบแถบพืช ภาพที่ 6.4 ระบบพืชคลุมดิน
ที่มา: ส่านักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน (2549) ที่มา: ส่านักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน (2549)
นอกจากนี้การใช้ปุ๋ยพืชสด สามารถแบ่งตามสภาพพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
การใช้ปุ๋ยพืชสดในนาข้าวการใช้ปุ๋ยพืชสดในพืชไร่ การใช้ปุ๋ยพืชสดในไม้ผลและการใช้ปุ๋ยพืชสดในยางพารา
ปาล์มน้่ามันและกาแฟ (ส่านักเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน, 2551) ดังนี้
1. การใช้ปุ๋ยพืชสดในนาข้าว
สภาพพื้นที่การท่านาของประเทศไทยสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ สภาพพื้นที่ลุ่ม สภาพพื้นที่ดอน
และสภาพพื้นที่ดินเค็ม ดังนั้น ชนิดพืชปุ๋ยสดที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ สามารถแบ่งได้ ดังนี้ สภาพพื้นที่นา
ลุ่มพืชปุ๋ยสดที่เหมาะสม ได้แก่ โสนอัฟริกัน โสนคางคก และโสนอินเดีย สภาพพื้นที่นาดอนพืชปุ๋ยสดที่
เหมาะสม ได้แก่ ถั่วพร้า ปอเทือง ถั่วพุ่ม และโสนอัฟริกัน สภาพพื้นที่นาดินเค็มพืชปุ๋ยสดที่เหมาะสม ได้แก่
โสนอัฟริกันและโสนคางคก ส่าหรับการใช้ปุ๋ยพืชสดในนาข้าวมี 3 วิธีการดังนี้
1.1 ปลูกพืชปุ๋ยสดก่อนการท่านา เช่น โสนอัฟริกัน ปอเทือง ถั่วพุ่ม และถั่วพร้า ใช้อัตราเมล็ด
5, 5, 8 และ 10 กิโลกรัมต่อไร่ ตามล่าดับ ปลูกในระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ไถกลบระยะออกดอก
ทิ้งให้ย่อยสลาย 7 วัน จึงปลูกข้าวตาม เมล็ดโสนอัฟริกันก่อนปลูกควรแช่น้่านาน 12 ชั่วโมง เพื่อท่าให้เมล็ด
งอกดีขึ้น เนื่องจากเปลือกหุ้มเมล็ดมีความหนา
