Page 122 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 122
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
111
กลบเมื่ออายุ 60 – 65 วัน โดยถั่วพร้าให้น้่าหนักสดและน้่าหนักแห้งระหว่าง 2,500 – 3,000 และ 500 –
840 กิโลกรัมต่อไร่ และให้ธาตุไนโตรเจน 10 – 20 กิโลกรัมไนโตรเจนต่อไร่ โดยส่วนเหนือดินมีปริมาณธาตุ
อาหารหลักคิดต่อน้่าหนักแห้งดังนี้ ปริมาณธาตุไนโตรเจน 2.00 – 2.95 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณธาตุฟอสฟอรัส
0.30 – 0.40 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณธาตุโพแทสเซียม 2.20 – 3.00 เปอร์เซ็นต์
3. ปอเทือง (Clotalaria juncea) เป็นพืชปีเดียวลักษณะล่าต้นตั้งตรงแตกกิ่งก้านสาขามาก
สูงประมาณ 1.80 – 3.00 เมตร มีดอกสีเหลือง จะออกดอกเมื่ออายุประมาณ 45 – 50 วัน ขึ้นได้ดีในพื้นที่
ดอนที่มีการระบายน้่าดี ไม่ชอบน้่าท่วมขัง ทนแล้งได้ดีปลูก โดยวิธีการหว่านอัตราเมล็ดเฉลี่ย 5 กิโลกรัมต่อ
ไร่ นิยมปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดในระบบการปลูกสองแบบ คือ แบบระบบปลูกพืชหมุนเวียน โดยปลูกก่อนพืชหลัก
แล้วไถกลบเมื่ออายุ 50 – 65 วัน พร้อมกับเตรียมดินเพื่อปลูกเพื่อปลูกพืชหลักหลังจากไถกลบ 12-15 วัน
และแบบระบบปลูกแซม โดยหว่านปอเทืองระหว่างแถวพืชหลัก หลังจากปลูกพืชหลักไปแล้วประมาณ 2
สัปดาห์ ปอเทืองให้น้่าหนักสดและน้่าหนักแห้งระหว่าง 2,000 – 3,500 และ 400 – 980 กิโลกรัมต่อไร่ และ
ให้ธาตุไนโตรเจน 10 – 20 กิโลกรัมไนโตรเจนต่อไร่ โดยส่วนเหนือดินมีปริมาณธาตุอาหารหลักคิดต่อน้่าหนัก
แห้ง ดังนี้ ปริมาณธาตุไนโตรเจน 2.10 – 2.85 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณธาตุฟอสฟอรัส 0.30 – 0.38 เปอร์เซ็นต์
ฟอสฟอรัส และปริมาณธาตุโพแทสเซียม 2.10 – 3.10 เปอร์เซ็นต์
4. โสนอัฟริกัน (Sesbania rostrata) เป็นพืชปีเดียว ไวต่อช่วงแสง ต้องมีช่วงวันน้อยกว่า
12.0-12.5 ชั่วโมง จึงออกดอกลักษณะล่าต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขา สูงประมาณ 2.00 – 3.50 เมตร
สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในสภาพดินไร่และดินนาในสภาพน้่าท่วมขัง ทนต่อสภาพดินเค็มที่ระดับความเค็ม
ประมาณ 2 –8 เดซิซีเมนต่อเมตร ปลูกโดยวิธีการหว่านอัตราเมล็ดเฉลี่ย 5 กิโลกรัมต่อไร่ ก่อนปลูกควรแช่น้่า 1
คืน เหมาะที่จะใช้เป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าว โดยปลูกพืชนี้ล่วงหน้าอย่างน้อย 70 วัน แล้วไถกลบเมื่ออายุ 50 –
70 วัน ขณะยังมีน้่าขังในแปลง ทิ้งช่วงเวลาประมาณ 10 วัน จึงท่าเทือกเพื่อปลูกข้าว โสนอัฟริกัน อายุ 50
– 70 วัน ให้น้่าหนักสดและน้่าหนักแห้งระหว่าง 2,000 – 4,000 และ 400 – 1,120 กิโลกรัมต่อไร่
ตามล่าดับ และให้ธาตุไนโตรเจน 12 – 20 กิโลกรัมไนโตรเจนต่อไร่ โดยส่วนเหนือดินมีปริมาณธาตุอาหาร
หลักคิดต่อน้่าหนักแห้ง ดังนี้ ปริมาณธาตุไนโตรเจน 2.50 – 3.00 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณธาตุฟอสฟอรัส 0.30 –
0.40 เปอร์เซ็นต์และปริมาณธาตุโพแทสเซียม2.00 – 2.78 เปอร์เซ็นต์ นิยมปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดไถกลบก่อน
ปลูกข้าว หรือปลูกหมุนเวียนสลับกับพืชไร่ เช่น ข้าวโพด และอ้อย เป็นต้น
5. ถั่วมะแฮะ (Cajanus cajan) ลักษณะต้นเป็นทรงพุ่ม สูงประมาณ 1 – 5 เมตร
สามารถเจริญเติบโตข้ามปีได้ 2 – 3 ปี เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่มีการระบายน้่าดี ไม่ทนต่อสภาพน้่า
ท่วมขังและไม่ทนเค็ม มีระบบรากแก้วและรากแขนงจ่านวนมาก และหยั่งรากลึกสามารถดูดฟอสฟอรัสได้ดี
จึงท่าให้เกิดการหมุนเวียนธาตุฟอสฟอรัสจากดินชั้นล่างสู่ผิวดิน ในด้านการใช้ประโยชน์ โดยปลูกถั่วมะ
แฮะไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดอายุประมาณ 60 – 75 วัน แล้วปลูกพืชไร่ตาม ให้น้่าหนักสดและน้่าหนักแห้ง
ระหว่าง 2,000 – 4,000 และ 400 – 1,120 กิโลกรัมต่อไร่ โดยส่วนเหนือดินมีปริมาณธาตุอาหารหลักเฉลี่ยคิด
ต่อน้่าหนักแห้ง ดังนี้ ปริมาณธาตุไนโตรเจน 2.34 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณธาตุฟอสฟอรัส 0.25 เปอร์เซ็นต์ และ
ปริมาณธาตุโพแทสเซียม 1.11 เปอร์เซ็นต์ หรือใช้ในระบบปลูกพืชแซมแบบแถบ เพื่อป้องกันและลดการ
สูญเสียหน้าดินจากการชะล้างพังทลายของดิน เช่น การปลูกกระถินผสมถั่วมะแฮะเป็นแถบไม้พุ่มบ่ารุงดิน