Page 106 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 106
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
95
เป็นด่างของดิน 6 – 7 ปุ๋ยหมักที่ผลิตจากวัสดุต่างกันก็ท่าให้กระบวนการ mineralization แตกต่างกันด้วย
ดังรายงานวิจัยของ Castellanos and Pratt (1981) พบว่า ปุ๋ยหมักจากฟางข้าวกับมูลโคนมมีการปลดปล่อย
ไนโตรเจนในรูปแอมโมเนียมได้ 14.2 เปอร์เซ็นต์ของไนโตรเจนทั้งหมด แต่ปุ๋ยหมักจากตะกอนน้่าเสียกับต้น
ฝ้ายให้ค่าเพียง 8.3 เปอร์เซ็นต์ของไนโตรเจนทั้งหมด เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะมาจากไนโตรเจนทั้งหมดและค่า
อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนที่แตกต่างกัน สอดคล้องกับรายงานของ Sikora and Szmidt (2001) ว่า
ขนาดของปุ๋ยหมัก ไนโตรเจนทั้งหมด และค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนมีอิทธิพลต่อการปลดปล่อย
ไนโตรเจนในรูปแอมโมเนียม ดังตารางที่ 5.8
ตารางที่ 5.8 อิทธิพลของขนาดของปุ๋ยหมักต่อการอัตรา mineralization ของไนโตรเจน
ขนาด ไนโตรเจนทั้งหมด อัตราส่วนคาร์บอน Mineralization
(กรัมต่อกิโลกรัม) ต่อไนโตรเจน (% ของไนโตรเจนทั้งหมด)
ผ่านตะแกรง 10 มิลลิเมตร 12.3 14.7 3.4
ผ่านตะแกรง 1 มิลลิเมตร 13.5 10.4 10.7
ค้างบนตะแกรง 10 มิลลิเมตร 11.6 18.6 2.5
ที่มา: Sikora and Szmidt(2001)
2) ธาตุฟอสฟอรัส ปุ๋ยหมักมีค่าธาตุฟอสฟอรัสตั้งแต่น้อยกว่า 0.4 ถึงมากกว่า 23 กรัมต่อ
กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ผลิต โดยปกติตะกอนน้่าเสียมีธาตุฟอสฟอรัสสูงกว่าวัสดุอินทรีย์อื่นๆ
และพบว่าปุ๋ยหมักที่ผลิตจากขยะชุมชนเมืองมีธาตุฟอสฟอรัส 2 – 6 กรัมต่อกิโลกรัม หรือเฉลี่ย 3.3กรัมต่อ
กิโลกรัม ซึ่งปริมาณของธาตุฟอสฟอรัสสูงกว่าธาตุฟอสฟอรัสทั้งหมดในดินที่ใช้เพาะปลูก 2 – 10 เท่า
โดยทั่วไปธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินมักต่่ากว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของธาตุฟอสฟอรัสทั้งหมดที่ดินมีอยู่
ส่วนฟอสฟอรัสที่อยู่ในปุ๋ยหมักสามารถปลดปล่อยออกมาในรูปเป็นประโยชน์ต่อพืชได้ 20 – 40 เปอร์เซ็นต์
โดยกระบวนการ mineralization (ยงยุทธและคณะ, 2551) ดังนั้นการใส่ปุ๋ยหมักเป็นการเพิ่มระดับธาตุ
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่อพืช นอกจากนี้ฮิวมัสในปุ๋ยหมักยังท่าหน้าที่เป็นสารคีเลตที่ท่าปฏิกิริยาคีเลชัน
กับอะลูมิเนียม เหล็กและแมงกานีสไอออน จึงป้องกันมิให้ไอออนดังกล่าวตรึงธาตุฟอสฟอรัส เป็นเหตุให้พืช
สามารถใช้ธาตุอาหารฟอสฟอรัส เหล็กและแมงกานีสในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(Dulal, 1977; Bloom, 1981; Tan, 2003) เมื่อใส่ปุ๋ยหมักลงไปในดินธาตุฟอสฟอรัสที่อยู่ในปุ๋ยหมักจะ
ค่อยๆ ถูกปลดปล่อยออกมาในรูปเป็นประโยชน์ต่อพืช โดยกระบวนการ mineralization ภายหลังใส่ในดิน
ดังงานวิจัยของ He et al. (2001) ที่ศึกษาเกี่ยวกับการปลดปล่อยธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์จากปุ๋ยหมัก
จากขยะในชุมชนและปุ๋ยหมักจากเศษพืช โดยน่าปุ๋ยหมักชนิดมาสกัดด้วยสารละลาย Mehlich 3 ก่อนใส่ใน
ดิน (0 วัน) และหลังใส่ในดิน 180 และ 360 วัน พบว่า ปุ๋ยหมักจากขยะในชุมชนสกัดได้เพิ่มจาก 3.3 เป็น
17.3 และ 18.4 เปอร์เซ็นต์ของธาตุฟอสฟอรัสทั้งหมด และปุ๋ยหมักจากเศษพืชสกัดได้เพิ่มจาก 3.7 เป็น 25.5
และ 27.0 เปอร์เซ็นต์ของธาตุฟอสฟอรัสทั้งหมด