Page 105 - ปุ๋ยอินทรีย์และการใช้ประโยชน์ในประเทศไทย
P. 105
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
94
ตารางที่ 5.7 รายละเอียดการกําหนดสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์ (ต่อ)
ลําดับที่ ลักษณะ เกณฑ์กําหนด
6 ความเป็นกรดเป็นด่าง 5.5 – 8.5
7 อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N) ไม่เกิน 20:1
8 ค่าการน่าไฟฟ้า ไม่เกิน 10 เดซิซีเมน/เมตร
9 ปริมาณธาตุอาหารหลัก
- ไนโตรเจน (total N) ไม่น้อยกว่า 1.0 เปอร์เซ็นต์ โดยน้่าหนัก
- ฟอสฟอรัส (total P O ) ไม่น้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นต์ โดยน้่าหนัก
2 5
- โพแทสเซียม (total K O) ไม่น้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นต์ โดยน้่าหนัก
2
หรือปริมาณธาตุอาหารหลักรวมกันไม่น้อยกว่า
2.0 เปอร์เซ็นต์ โดยน้่าหนัก
10 การย่อยสลายที่สมบูรณ์ มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
11 ปริมาณเกลือ ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ โดยน้่าหนัก
12 ปริมาณสารพิษไม่เกินกว่าที่รัฐมนตรี
ประกาศก่าหนด
ที่มา: กรมวิชาการเกษตร (2552)
10. ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก
ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก คือ เป็นแหล่งธาตุอาหารต่างๆ ของพืชและยังช่วยปรับปรุงสมบัติทางเคมี ฟิสิกส์
และชีวภาพของดิน ดังนี้
10.1 เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืช
ปุ๋ยหมักมีจุดเด่นด้านธาตุอาหารพืช 2 ประการ คือ 1) มีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองและจุล
ธาตุ ครบตามที่พืชต้องการ แม้แต่ละธาตุจะมีปริมาณที่น้อยกว่าปุ๋ยเคมี และ 2) ธาตุอาหารในปุ๋ยหมัก
ส่วนมากจะปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆ จึงมีการสูญเสียจากการชะล้างน้อยกว่าปุ๋ยเคมี (He et al., 2001)
ส่าหรับความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในปุ๋ยหมักเป็นดังนี้
1) ธาตุไนโตรเจน ในปุ๋ยหมักมีธาตุไนโตรเจนในรูปอินทรียสารเป็นส่วนมาก ส่วนรูป
แอมโมเนียมและไนเตรทมีส่วนน้อย โดยอัตราการเปลี่ยนธาตุไนโตรเจนจากรูปอินทรียสารเป็นรูป
แอมโมเนียมค่อนข้างช้า ท่าให้ไม่ได้ปลดปล่อยธาตุนี้ทั้งหมดให้แก่พืชในฤดูปลุกเดียว แต่สามารถปลดปล่อย
ให้พืชที่ปลูกตามมาได้อีกด้วย ซึ่งการเปลี่ยนธาตุไนโตรเจนจากรูปอินทรียสารเป็นรูปแอมโมเนียมในปุ๋ยหมัก
เรียกว่า กระบวนการมินเนอราลไลเซชัน (mineralization) เกิดขึ้นได้ดีเมื่อดินอิ่มตัวดัวยน้่าเพียง 30 – 40
เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิ 25 – 30 องศาเซลเซียส การน่าไฟฟ้าไม่เกิน 1 เดซิซีเมนต่อเมตร และค่าความเป็นกรด

