Page 33 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 33
28
5. หลักการใชประโยชนที่ดินเพื่อการเกษตร
5.1. สถานการณทรัพยากรที่ดิน
ประเทศไทยมีพื้นที่ 513,115 ตารางกิโลเมตร หรือ 320.7 ลานไร มีภูมิประเทศเปนที่ราบ (Plains
หรือ Low land) ประมาณรอยละ 28 ที่ดอน (Upland) รอยละ 43 และที่สูง (Highland) รอยละ 2 สถานการณ
ความตองการที่ดินอันเนื่องมาจากจํานวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นและความหลากหลายของการใชประโยชน
ที่ดินไดเพิ่มมากขึ้น ดินหรือที่ดินนั้นนอกจากจะเปนปจจัยสําคัญในการทําการเกษตรเพื่อยังชีพแลว ยังเปน
ทรัพยากรธรรมชาติที่กอใหเกิดผลกระทบตอชีวิตและความเปนอยูของมวลมนุษยมากมาย ปจจุบันมีการ
เสื่อมโทรมลงอยางมาก เนื่องจากไดมีการใชที่ดินและการจัดการดินอยางไมเหมาะสม กอใหเกิดผลกระทบ
ทางดานเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดลอม ปญหาการชะลางพังทลายของดินมีแนวโนมเพิ่มขึ้นจาก 108 ลาน
ไร ในป 2524 เปน 134.5 ลานไร หรือเทากับรอยละ 41.95 ของพื้นที่ทั้งประเทศ กอใหเกิดผลกระทบและเกิด
ความเสียหายอยางมาก
ในปจจุบันพบวาการใชที่ดินกวาหนึ่งในสามของประเทศไทย อยูในภาคเกษตรกรรม โดยในป
พ.ศ. 2541 มีพื้นที่ทําการเกษตรทั้งหมด 174 ลานไร คิดเปนรอยละ 54.5 ของพื้นที่ทั้งประเทศไทย เมื่อเทียบ
กับป พ.ศ. 2526 ซึ่งมีพื้นที่การเกษตรเพียง 124 ลานไร (38.8 เปอรเซ็นต) จะเห็นวาพื้นที่เกษตรกรรมในชวง
10 กวาปที่ผานมา (ป พ.ศ. 2526 – 2541) มีอัตราเพิ่มขึ้นรอยละ 0.6 ตอป ในขณะที่เนื้อที่ปาไมมีอัตราการ
ลดลงรอยละ 1.43 ตอป จากการที่พื้นที่การเกษตรเพิ่มขึ้นจากเดิมรอยละ 52.28 ในป พ.ศ. 2529 เปนรอยละ
54.53 ในป พ.ศ. 2541 โดยพื้นที่ปาไมมีปริมาณลดลงจากเดิมรอยละ 34.55 เปนรอยละ 32.9 ตามลําดับ นั่น
แสดงวามีการบุกรุกเขาไปในพื้นที่ปาไมเพื่อทําการเกษตรกรรม (สมเจตน, 2524)
การเปลี่ยนแปลงการใชที่ดินของประเทศไทยระหวางป พ.ศ. 2529 ถึงป พ.ศ. 2541 พบวามีการบุก
รุกเขาไปในพื้นที่ปาไมหรือปาสงวน เพื่อทําการเกษตร ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุดวยกัน เชน
1) พื้นที่เดิมขาดความอุดมสมบูรณ ใหผลผลิตตอไรต่ํา
2) พื้นที่เดิมมีความเสื่อมโทรมจนไมสามารถทําการเกษตรได
3) จํานวนประชากรเพิ่มขึ้น ทําใหมีความตองการที่ดินเพื่อการประกอบอาชีพมากขึ้น
4) ขายที่เดิมและบุกรุกปา
ในประเทศไทยพบดินที่มีปญหาซึ่งเกิดขึ้นเองธรรมชาติ และมีลักษณะที่ไมเหมาะสมตอการทํา
เกษตรกรรมจํานวนมาก จากการรวบรวมสามารถจําแนกประเภทดินไดดังตอไปนี้
1) ดินเค็มและดินดาง ดินเค็มที่พบในประเทศไทย พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีเนื้อที่ประมาณ 17.8 ลานไร แตเปนดินเค็มจัด 1,311,875 ไร ดินเค็มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ หากไมมี
การจัดการที่ดีจะมีโอกาสขยายตัวไดอีกจนถึง 19.8 ลานไร นอกจากนี้ ยังพบดินบริเวณชายฝงทะเลอีก
ประมาณ 23 ลานไร