Page 35 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 35

30

                  เกษตรกรรมเพื่อผลิตอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่สาธารณะ เปนตน การบุกรุกพื้นที่ปาไมเพื่อที่อยู

                  อาศัยและการเกษตรตางๆ เหลานี้ ลวนแตทําใหมีการใชประโยชนจากที่ดินมากขึ้น  และมีแนวโนมจะเพิ่ม
                  มากขึ้นตามลําดับ  ดวยเหตุผลดังกลาว  ประกอบกับปญหาที่จะเกิดจากการใชประโยชนที่ดินตั้งแตอดีต

                  จนถึงปจจุบัน  พบวาผูที่มีสวนเกี่ยวของกับการใชประโยชนที่ดิน ยังไมมีการพัฒนาและวางแผนจัดการใช

                  ที่ดินอยางถูกตองและเหมาะสมเพียงพอ
                         การใชประโยชนจากที่ดินที่ไมถูกตองตามหลักวิชาการ ทําใหเกิดปญหาความเสื่อมโทรมของดิน ซึ่ง

                  สงผลกระทบทั้งทางตรงและทางออมตอเกษตรกร ชุมชนและประเทศชาติ ปญหาของทรัพยากรดินและการ

                  ใชที่ดินจึงแยกได 2 ประการคือ ปญหาความเสื่อมโทรมของดินและปญหาการใชที่ดิน



                  5.2. สถานการณความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดิน
                                   ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดิน มีสาเหตุทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและเกิดจากการใชที่ดินที่ไม

                  ถูกตองตามหลักวิชาการ ตัวอยางของปญหา เชน การชะลางพังทลายของดิน ดินขาดอินทรีย และปญหาที่เกิด

                  จากสภาพธรรมชาติของดินรวมกับการกระทําของมนุษย เชน ดินเค็ม ดินเปรี้ยว ดินอินทรีย (พรุ) ดินทรายจัด
                  และดินตื้น พื้นที่ดินที่มีปญหาตอการใชประโยชนทางดานเกษตรกรรมของประเทศไทย ไดแก การชะลาง

                  พังทลายของดิน 108.87 ลานไร พื้นที่ที่มีปญหาการชะลางพังทลายของดินมากที่สุดคือ ภาคเหนือ ดินขาด

                  อินทรียวัตถุ 98.70 ลานไร ปญหาดินขาดอินทรียวัตถุประมาณรอยละ 77 อยูในพื้นที่ภาค
                  ตะวันออกเฉียงเหนือ ดินที่มีปญหาตอการใชประโยชนทางดานเกษตรกรรม 209.84 ลานไร ซึ่งสวนใหญอยู

                  ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สวนดินเค็ม ดินกรดและดินคอนขางเปนทราย อยูในพื้นที่ภาค

                  ตะวันออกเฉียงเหนือ สําหรับการใชประโยชนที่ดินไมถูกตองตามศักยภาพ คิดเปนพื้นที่ 35.60 ลานไร
                           กรมพัฒนาที่ดินไดศึกษาการเปลี่ยนแปลงการใชที่ดินของประเทศไทยโดยการแปลภาพถายทาง

                  อากาศ และขอมูลดาวเทียม และการตรวจสอบในสนาม ในป พ.ศ. 2523,  2529,  2541 และ 2544 พบวาใน

                  ขณะที่พื้นที่ปาไมลดลง พื้นที่เกษตรกรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้งพื้นที่ชุมชนที่เพิ่มขึ้นประมาณ 8 เทาตัวจาก พ.ศ.

                  2523 อยางไรก็ตาม เปนที่นาสังเกตวาตั้งแต พ.ศ. 2529-พ.ศ. 2541 พื้นที่นาไดลดลงประมาณ 3.5 ลานไร
                  พื้นที่นาที่ลดลงนั้นถูกเปลี่ยนสภาพไปเปนโรงงานอุตสาหกรรม ที่อยูอาศัย สนามกอลฟ รีสอรท หรือที่

                  พักผอนหยอนใจจํานวนมาก แตในชวงป พ.ศ. 2541-2544 พื้นที่นาไดเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ลานไร เนื่องจาก

                  หลังวิกฤตการณทางเศรษฐกิจในป พ.ศ. 2540 ไดมีการเคลื่อนยายแรงงานกลับสูภาคเกษตรมากขึ้น


                  5.3. หลักทฤษฎีการใชที่ดิน

                           ทรัพยากรที่ดินถือวาเปนทรัพยากรที่ไมสามารถเคลื่อนยายได และอยูหางไกลจากจุดศูนยกลางของ

                  เศรษฐกิจที่แตกตางกัน  จะตองเสียคาขนสงในการนําเอาผลิตภัณฑมาสูศูนยกลางของธุรกิจ  แหลงที่ตั้งของ
                  ทรัพยากรที่ดินจึงมีบทบาทสําคัญในการใชที่ดินเชิงเศรษฐกิจ  ซึ่งมีผลกระทบตอคาเชาและมูลคาของที่ดิน
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40