Page 37 - การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตพืชในพื้นที่ ลุ่มน้ำสาขาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนที่ 2 ปีการผลิต 2541/42

28

ไดแก การเก็บผลผลิตและการขนยาย รองลงมาไดแกการตัดทางและแตงกิ่ง ใสปุย กําจัดวัชพืช และฉีดยา

ปราบศัตรูพืช ในจํานวนนี้เปนคาแรงงานจางที่เปนเงินสดเฉลี่ยไรละ 563.98 บาท เปนคาแรงงานของตนเอง
และคนในครอบครัวเฉลี่ยไรละ 381.64 บาท คาแรงงานเครื่องจักรเฉลี่ยไรละ 147.73 บาท ใชในการตัดหญา

คาวัสดุปจจัยการเกษตร เชน คาปุยเคมีคิดเปนมูลคาเฉลี่ยไรละ 852.52 บาท ประกอบไปดวยการใชปุย

ชนิดตางๆ หลายชนิด ปุยเคมีที่ใชมากไดแก ปุยเคมีสูตร 13-13-21 ไรละ 28.03 กิโลกรัม รองลงมาไดแก

ปุยสูตร 15-15-15 ไรละ 26.17 กิโลกรัม ปุยสูตร 0-0-60 ไรละ 23.52 กิโลกรัม เปนตน คายาปราบวัชพืช
เฉลี่ยไรละ 15.15 บาท เปนยาชนิดน้ํา และคาวัสดุสิ้นเปลืองอื่นๆ เฉลี่ยไรละ 0.23 บาท นอกจากนี้ยังมี

คาใชจายที่เปนตนทุนผันแปรอื่นๆ ไดแก คาขนสงผลผลิต และคาเสียโอกาสเงินลงทุน ดังนั้นจะมีตนทุน

ผันแปรรวมทั้งหมดเฉลี่ยไรละ 2,889.78 บาท ในสวนของตนทุนคงที่ทั้งที่เปนเงินสดและไมเปนเงินสด
เกษตรกรจะมีตนทุนคงที่รวมทั้งหมดเฉลี่ยไรละ 383.83 บาท โดยสวนใหญจะเปนตนทุนคงที่ที่ไมเปนเงินสด

ไดแก คาใชที่ดินเฉลี่ยไรละ 362.05 บาท คาเสื่อมเครื่องมือและอุปกรณการเกษตรเฉลี่ยไรละ 18.67 บาท

สวนตนทุนคงที่ที่เปนเงินสดมีเพียงอยางเดียว คือ คาภาษีที่ดินเฉลี่ยไรละ 3.11 บาท สําหรับการผลิต
ปาลมน้ํามันชวงอายุ 10-16 ป ในหนวยที่ดินที่ 26B นี้ เมื่อพิจารณาถึงผลตอบแทนเหนือตนทุนที่เปนเงินสด

แลวจะพบวาเกษตรกรมีผลตอบแทนเหนือตนทุนที่เปนเงินสดเฉลี่ยไรละ 6,350.17 บาท แตเมื่อศึกษาถึง

ผลตอบแทนเหนือตนทุนผันแปรทั้งหมดแลวปรากฏวาเกษตรกรจะมีผลตอบแทนเหนือตนทุนผันแปร
เฉลี่ยไรละ 5,852.20 บาท และจะไดรับผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งหมดเฉลี่ยไรละ 5,468.37 เกษตรกร

ประสบปญหาจากปจจัยการผลิตมีราคาสูงและราคาผลผลิตตกต่ํามากที่สุด รองลงมา ปญหาศัตรูพืชรบกวน

และการขาดแคลนแรงงานตามลําดับ (ตารางที่ 7 28 29 และ 39)

ปาลมน้ํามันอายุ 17-21 ป พันธุ TENERA เกษตรกรที่ปลูกปาลมน้ํามันอายุ 17-21 ป
ในหนวยที่ดินที่ 26B มีเนื้อที่เพาะปลูกเฉลี่ยครอบครัวละ 22.43 ไร ไดผลผลิตประมาณไรละ 4,363.06

กิโลกรัม คิดเปนมูลคาผลผลิตทั้งหมดเฉลี่ยไรละ 9,947.78 บาท จากราคาผลผลิตที่ไดเฉลี่ยกิโลกรัมละ

2.28 บาท ผลผลิตที่ไดจะขายทั้งหมด และขายที่ผูรับซื้อทั้งหมด ประเภทของผูที่รับซื้อผลผลิตไดแก

พอคาในทองถิ่นรอยละ 87.05 พอคาในเมืองรอยละ 9.33 และโรงงานปาลมน้ํามันรอยละ 3.63 ใชตนทุน
ในการเพาะปลูกทั้งหมดเฉลี่ยไรละ 6,690.79 บาท ซึ่งประกอบดวยตนทุนผันแปรและตนทุนคงที่ทั้งที่

เปนเงินสดและไมเปนเงินสด ตนทุนผันแปรสวนใหญเปนคาแรงงานคนเฉลี่ยไรละ 2,992.70 บาท ซึ่งเปน

แรงงานจางที่เปนเงินสดเฉลี่ยไรละ 2,506.01 บาท แรงงานจางสวนใหญใชในการเก็บผลผลิตและขนยาย
รองลงมาไดแก การตัดทางและแตงกิ่ง การกําจัดวัชพืช ฉีดยาปราบวัชพืชและการใสปุยตามลําดับ

เปนแรงงานของตนเองและคนในครอบครัวเฉลี่ยไรละ 486.69 บาท คาแรงงานเครื่องจักรเฉลี่ยไรละ

25.48 บาท ใชในการตัดหญา คาวัสดุปจจัยการเกษตร เชน คาปุยเคมีคิดเปนมูลคาเฉลี่ยไรละ 1,578.23 บาท
ปุยเคมีที่ใชมีอยูดวยกันหลายชนิด ที่ใชมากที่สุดไดแกปุยเคมีสูตร 15-15-15 ใสไรละ 55.73 กิโลกรัม

ปุยสูตร 0-0-60 ไรละ 33.12 กิโลกรัม สูตร 13-13-21 ไรละ 31.85 กิโลกรัม เปนตน และคายาปราบวัชพืช