Page 12 - การจัดการอินทรียวัตถุในดินเพื่อการผลิตข้าวโพดหวานในระบบเกษตรอินทรีย์ จังหวัดสตูล Soil Organic Matter Management for Sweet Corn Production in Organic Agriculture System, Sutun Province.
P. 12
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
5
และเพื่อให้มีการปลูกข้าวโพดหวานและมีปริมาณผลผลิตที่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคและการส่งออกทั้งยัง
เป็นการเพิ่มหรือขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดหวาน และส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหวานให้เป็นพืชเสริมรายได้ให้กับ
เกษตรกร และการปรับปรุงบำรุงดินด้วยอินทรียวัตถุจากการไถกลบต้นข้าวโพดหวานหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้
ผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคและสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีหรือทดแทนปุ๋ยเคมีเพื่อให้พื้นที่ปลูก
สามารถทำการเกษตรแบบยั่งยืนได้ การศึกษาวิจัยวิธีการ การผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพ
ที่สุด แล้วนำความรู้ที่ได้จากการวิจัยไปแนะนำส่งเสริมให้กับเกษตรกรทั่วไปได้รับความรู้เมื่อพื้นที่ปลูกข้าวเพิ่มขึ้น
ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เกษตรกรผู้ทำนาก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามลำดับ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน ก่อนและหลังการทดลอง
2. เพื่อศึกษาผลของปุ๋ยอินทรีย์ต่อการผลิตข้าวโพดหวานในระบบเกษตรอินทรีย์
3. เพื่อศึกษาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของข้าวโพดหวานในตำรับทดลอง
การตรวจเอกสาร
ธาตุอาหารมีอิทธิพลต่อพืชทั้งด้านผลผลิตและคุณภาพ พืชต้องการปริมาณและชนิดของธาตุอาหารในแต่ละ
ช่วงของการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน โดยต้องการในปริมาณที่เพิ่มขึ้นตามส่วนของการเจริญเติบโตที่เพิ่มขึ้น เมื่อพืช
เจริญเติบโตถึงช่วงหนึ่งพืชจะต้องการปริมาณธาตุอาหารคงที่ ไม่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีการใส่ลงไปอีกพืชก็ไม่สามารถดูดมา
ใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากพืชเจริญเติบโตเต็มที่แล้วและได้ดูดกินอาหารมาสะสมไว้มากพอแล้วทำให้เกิดการสูญเสียและ
ตกค้างอยู่ในดิน และหากมีปริมาณที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดเป็นพิษได้ทำให้พืชมีลักษณะการตอบสนองผิดไปจากเดิม
เกิดการชะงักการเจริญเติบโตของพืช ระบบการทำงานของพืชผิดปกติ (อภิรดี, 2535)
แนวทางการการเพิ่มอินทรียวัตถุ
อินทรียวัตถุมีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ทางการเกษตร การเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุแก่ดินจะช่วยปรับปรุงบำรุง
ดินให้มีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช วิธีการเพิ่มอินทรียวัตถุโดยทั่วไปโดยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก
ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยพืชสด
C/N ratio เป็นปัจจัยที่บ่งชี้ว่าในการย่อยสลายสารอินทรีย์นั้นจะมีไนโตรเจนเพียงพอกับความต้องการของ
จุลินทรีย์และทำให้การย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ (ยงยุทธและคณะ, 2541) คาร์บอนใน
องค์ประกอบของวัสดุอินทรีย์เป็นแหล่งพลังงานให้กับจุลินทรีย์ ส่วนไนโตรเจนจะเป็นแหล่งให้โปรตีนในการสร้าง
เนื้อเยื่อของจุลินทรีย์ C/N ratio มีอิทธิพลต่อการเสื่อมสลายของอินทรียวัตถุมากเป็นอันดับหนึ่ง (ปัทมา, 2524) ค่า
C/N ratio สามารถนำมาใช้ประเมินความยากง่ายในการย่อยสลายของวัสดุอินทรีย์ต่างๆออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มี
ค่า C/N ratio แคบกว่า 100 : 1 จัดเป็นวัสดุย่อยสลายได้ง่ายและ กลุ่มที่มีค่า C/N ratio กว้างกว่า 100 : 1 จัดเป็น
วัสดุประเภทย่อยสลายยาก (มุกดา, 2545)
คำแนะนำการปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ
1. การใช้ปุ๋ยคอกเป็นวัสดุปรับปรุงดิน ควรเลือกปุ๋ยคอกเก่าๆที่ผ่านการย่อยสลายตามธรรมชาติแล้ว ปุ๋ยคอก
เก่าที่สภาพแห้งแม้จะมีปัญหาการสูญเสียไนโตรเจนไม่มาก แต่ก็ควรไถกลบปุ๋ยคอกหลังใส่ลงดินทันที
2. การวัสดุอินทรีย์ที่มีค่า C/N ratio แคบในการทำปุ๋ยหมักจะได้ปุ๋ยหมักเร็ว ในขั้นตอนการทำปุ๋ยหมักหากมี
การใช้ปุ๋ยคอก หรือสารเร่งบางชนิดผสมอยู่ด้วยจะช่วยให้ๆได้ปุ๋ยหมักในระยะเวลาอันรวดเร็วและมีคุณภาพ
3. ปุ๋ยพืชสดที่นิยมใช้เป็นพืชปรับปรุงดินส่วนใหญ่เป็นพืชตระกูลถั่ว เช่น ปอเทือง ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า เป็นต้น เมื่อ
ทำการไถกลบพืชปุ๋ยสดลงดินจะได้ไนโตรเจนจากการสลายตัวของวากพืชและจากกิจกรรมของไรโซเบียมควบคู่กัน
4. การไถกลบตอซังหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นวิธีหนึ่งในการเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินโดยตรง