Page 11 - การจัดการอินทรียวัตถุในดินเพื่อการผลิตข้าวโพดหวานในระบบเกษตรอินทรีย์ จังหวัดสตูล Soil Organic Matter Management for Sweet Corn Production in Organic Agriculture System, Sutun Province.
P. 11
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
4
applying high content compost at the rate of 100 kg/rai combined with LDD 2 bio-extract at the
rate of 1 litre/500 litres of water gave the highest economic return which the production value and
economic return of 17,671.80 and 13,871.80 baht/rai, respectively.
หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันกระแสความนิยมของผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับอาหารสุขภาพมากขึ้นความปลอดภัยทางอาหาร
โดยไม่มีการปนเปื้อนหรือมีน้อยมากจากสารเคมี สารพิษที่ส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้การผลิตอาหารเพื่อสุขภาพออกสู่
ตลาดมากขึ้น เกษตรอินทรีย์เป็นระบบการเกษตรที่เน้นการเพาะปลูกพืชที่ใช้ปุ๋ยประเภทอินทรีย์เป็นหลัก เช่น ปุ๋ยคอก
ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์สามารถเพิ่มมูลค่าของ
ผลผลิตได้เป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันกับพบว่าพื้นที่ที่เป็นการทำการเกษตรแบบอินทรีย์มีน้อยมากเนื่องจากปัจจัย
หลายๆอย่างเช่น รูปแบบการผลิต กระบวนการขั้นตอนต่างๆในการผลิตที่ค่อนข้างยุ่งยาก เห็นผลตอบแทนช้า เป็นต้น
ทำให้เกษตรกรหลายรายมองข้ามระบบเกษตรอินทรีย์ไปโดยยังเน้นการผลิตพืชที่ใช้ปุ๋ยเคมีเป็นหลักจนทำให้พื้นที่ที่ทำ
การเพาะปลูกเริ่มส่งผลต่อพืชที่ปลูกให้มีต้นที่ไม่สมบูรณ์ ผลผลิตน้อยหรือหากมีการใช้ปุ๋ยเคมีติดต่อกันเป็นระยะ
เวลานานจะทำให้พื้นที่ไม่สามารถปลูกพืชได้อีก พบว่า การใส่ปุ๋ยเคมีอย่างต่อเนื่องทุกๆปี มีผลต่อระดับความเป็นกรด
ของดินจากการทดลอง Tattao (1987) ในดินดอน ซึ่งเป็นดินเหนียวสีแดง มีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ
โพแทสเซียมอัตราต่างๆกันให้แก่ข้าวโพดที่ปลูกปีละครั้งติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปีพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับ
pH ยิ่งต่ำเมื่อใส่ปุ๋ยมากขึ้นหากดินมีปฏิกิริยาเป็นกรดอยู่แล้วการใส่ปุ๋ยทำให้ดินเป็นกรดมากขึ้น แม้จะใส่ทั้งปุ๋ย
ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม แต่ปุ๋ยที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เป็นกรดคือ ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต ส่วนปุ๋ย
ดับเบิ้ลซูเปอร์ฟอสเฟตและโพแทสเซียมคลอไรด์มีผลต่อความเป็นกรด-ด่างของดินน้อยมากเมื่อเทียบกับปุ๋ย
แอมโมเนียมซัลเฟต (อำนาจ,2551) การปลูกพืชไร่เศรษฐกิจเช่น ข้าวโพดหวาน ถั่วเขียว ถั่วเหลือง เป็นต้น ก็เป็นอีก
ทางเลือกหนึ่งที่จะเป็นการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ ธาตุอาหาร ความชื้นที่ยังเหลืออยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะข้าวโพดหวาน
จัดเป็นพืชไร่เศรษฐกิจที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีและปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยมีการ
ส่งออกข้าวโพดหวานในรูปแบบต่างๆสูงเป็นอันดับที่ 1 หรือ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา พบว่าปริมาณการ
ส่งออกของปี 2550-2554 มีปริมาณการส่งออก 151,276 , 153,384 , 160,818 , 173,619 และ 184,178 ตัน
ตามลำดับ มีการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้อุตสาหกรรมข้าวโพดหวานยังคงมีแนวโน้มที่ขยายการเจริญเติบโตต่อไปใน
อนาคตเนื่องจาก ประเทศผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่อย่าง สหรัฐฯได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกพืชพลังงานทดแทน
และประเทศสหภาพยุโรปมีแนวโน้มขายความต้องการเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่สหภาพยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยมี
แนวโน้มปริมาณการส่งออกลดลง เนื่องจากข้อกำหนดของมาตรการ AD (Anti Dumping) และจุดแข็งของ
อุตสาหกรรมข้าวโพดหวานของไทยอีกอย่างคือการที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีและผลผลิตมีคุณภาพทำให้โรงงานผลิต
ได้ทั้งปี รวมถึงประเทศแถบเอเซีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ก็มีความต้องการนำเข้าข้าวโพดหวานเช่นกันปริมาณ
ผลผลิตข้าวโพดหวานของไทยร้อยละ 80-90 จะถูกส่งออกใน 2 ลักษณะ คือ ข้าวโพดหวานแช่เย็นแช่แข็ง และ
ข้าวโพดหวานปรุงแต่ง/แปรรูป โดยประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ อังกฤษ เยอรมัน รัสเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน
นอกจากข้าวโพดหวานจะเป็นพืชที่มีศักยภาพในด้านการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในระยะหลังการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว
การนำเศษเหลือใช้ เช่นต้นข้าวโพดหวานสามารถใช้ในการไถกลบลงดินเพื่อการปรับปรุงดิน หรือการนำไปเป็นอาหาร
หยาบทดแทนหญ้าสดสำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงโคเนื้อ-โคนม การใช้ปุ๋ยชีวภาพจะช่วยส่งเสริมสมบัติทางกายภาพ ทำให้
ดินเหนียว มีความร่วนซุย ระบายน้ำ อากาศได้ดีขึ้น ปรับสภาพทางเคมีโดยลดความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ลดความ
เป็นพิษของโลหะหนัก ช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารให้เป็นประโยชน์ต่อพืช ช่วยเก็บธาตุอาหารไว้ในดิน และดินที่มี
อินทรียวัตถุมากพอจะต้านทานการชะล้างพังทลายของดินได้ (กรมวิชาการเกษตร,2551)
เป้าหมายการจัดทำโครงการวิจัยศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ต่อการผลิตข้าวโพดหวานในระบบเกษตร
อินทรีย์ (ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี) ใน จ.สตูล มุ่งหวังให้เป็นพื้นที่ตัวอย่าง ด้านการสาธิต ทดสอบเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินที่
เหมาะสมสำหรับการศึกษาเรียนรู้ ส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวโพดหวานในพื้นที่ดังกล่าว เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้