Page 17 - การจัดทำค่ามาตรฐานของมหธาตุสำหรับแปลผลวิเคราะห์ดินและพืชในขมิ้นชัน Standard Values of Macronutrient Elements for Soil and Plant Analysis in Turmeric (Curcuma longa L.)
P. 17
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
7
ยาก เนื่องจากค่าผลผลิตสูงสุด และค่าคงที่ของสมการ ประเมินได้ยาก และมีความแปรปรวนเปลี่ยนแปลงไป
ตามปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง (Harmsen, 2000) ดังนั้น หากต้องการความแม่นย า จ าเป็นต้องใช้ข้อมูลจากการ
ทดลองในปริมาณมาก ส าหรับน ามาใช้สร้างความสัมพัทธ์ระหว่างปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรของสมการ การ
ค านวณระดับความเข้มข้นธาตุอาหารที่เหมาะสม ตามทฤษฎีของ Mitscherlich จึงใช้ได้ผลในกรณีที่ปัญหา
การขาดธาตุอาหารไม่ซับซ้อน อย่างกรณีการประเมินอัตราปุ๋ยฟอสฟอรัสส าหรับมันฝรั่งเพียงธาตุเดียว พบว่า
ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ (Nievergelt, 2013) ส่วนในบริเวณที่ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมมีความแปรปรวนการน า
สมการดังกล่าวไปใช้จ าเป็นต้องมีการดัดแปลงเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการ
ดัดแปลงสมการให้มีความเหมาะสมกับปริมาณน้ าฝนบริเวณพื้นที่เขตเมดิเตอร์เรเนียน พบว่า สามารถน ามาใช้
ค านวณอัตราปุ๋ยฟอสฟอรัสส าหรับข้าวสาลีได้ (Harmsen et al., 2001) อย่างไรก็ตาม หากต้องจัดการธาตุ
อาหารหลาย ๆ ธาตุไปพร้อมกัน จ าเป็นต้องใช้ข้อมูลจากการทดลองจ านวนมาก ปัจจุบันจึงมีการใช้
แบบจ าลองสมดุลมวลมาใช้จัดการธาตุอาหารที่มีความซับซ้อน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และใช้ระยะเวลาน้อยกว่าการ
ใช้สมการดังกล่าว ประกอบกับงานวิจัยในระยะต่อมา พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของธาตุ
อาหารในดิน เป็นไปได้ 4 แบบ คือ รูป U คว่ า, V คว่ า, S และ C (สมศักดิ์, 2552) ทุกรูปแบบผลผลิตของพืช
จะลดลงเมื่อความเข้มข้นของธาตุอาหารสูงเกินไป ซึ่งไม่เป็นไปตามสมการของ Mitscherlich แต่สมการนี้
ยังคงเป็นรากฐานที่มีประโยชน์อย่างยิ่งส าหรับการพัฒนาเทคนิคหลักการจัดการธาตุอาหารในปัจจุบัน
2.3 ทฤษฎีการจัดการธาตุอาหารแบบสมดุลมวล (mass balance model)
การใช้สมการแบบดั้งเดิมมาประเมินความต้องการธาตุอาหารพืชนั้นท าได้ยาก เนื่องจาก
ปัญหาความไม่แน่นอนของค่าตัวแปรในสมการที่ใช้ ซึ่งเกิดจากความซับซ้อนของสภาวะแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง
ท าให้การจัดการธาตุอาหารขาดความแม่นย า ประกอบกับการเกษตรเปลี่ยนรูปแบบการผลิตจากการเกษตร
ภาคครัวเรือน มาเป็นการเกษตรเชิงการค้าในภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตทางการเกษตรจึงถูกเคลื่อนย้ายออก
จากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินจากการสูญเสียธาตุอาหารไปกับผลผลิต ในช่วง
ศตวรรษที่ 19 นักวิทยาศาสตร์ทางดิน จึงเริ่มเปลี่ยนวิธีการจัดการธาตุอาหารแบบดั้งเดิม มาสู่วิธีการจัดการ
ธาตุอาหารแบบสมดุลมวลของสสาร หลักการของทฤษฎีนี้จะประเมินความต้องการธาตุอาหารที่ต้องเพิ่มใน
ดินจากปริมาณธาตุอาหารที่สูญเสียออกจากระบบ (Garcia-Ruiz et al., 2012) โดยประเมินจากสมดุลของ
ธาตุอาหารที่ดินได้รับ (input) กับส่วนที่สูญเสียออกจากพื้นที่ (output) ซึ่งสามารถอธิบายได้ด้วยสมการทาง
คณิตศาสตร์อย่างง่าย (สมการที่ 3) และ (สมการที่ 4) ตามล าดับ
ธาตุอาหารระดับที่สมดุล = ธาตุอาหารที่ต้องเพิ่มในดิน - ธาตุอาหารที่สูญเสียจากพื้นที่ …….….3
ธาตุอาหารที่ต้องเพิ่มในดิน = ธาตุอาหารระดับที่สมดุล + ธาตุอาหารที่สูญเสียจากพื้นที่ …….….4
จากการสร้างแบบจ าลองสมดุลมวลเพื่อใช้จัดการไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ส าหรับต้น
มะกอก พบว่า ปริมาณธาตุอาหารที่ดินได้รับ หรือส่วนที่มีการเพิ่มเข้ามาในระบบ มาจากหลายส่วน ได้แก่
เมล็ดพืช รวมทั้งชีวมวลอื่นๆ ที่ร่วงลงดิน หรือจากปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี น้ าฝน น้ าชลประทาน การผุพังสลายตัว