Page 9 - ผลของการใช้ระบบน้ำหยดต่อผลผลิตและคุณภาพของอ้อยในดินด่างจังหวัดนครสวรรค์ Effects of drip irrigation on sugarcane yield and qualityon calcareous soil in Nakhonsawan province
P. 9

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน











                                            ดอกอ้อยจะมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ด้วยกันแต่ก็แบ่งเป็น 2 พวก คือ
                                                    (1) ดอกสมบูรณ์เพศมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียมีความสมบูรณ์
                       (fertile) ผสมตัวเองได้

                                                    (2) ดอกไม่สมบูรณ์มีเกสรตัวผู้ไม่สมบูรณ์แต่เกสรตัวเมียสมบูรณ์
                       (malesfertile) ผสมตัวเองไม่ได้ แต่อาจมีบางพันธุ์ที่มีเกสรตัวผู้สมบูรณ์แต่ผสมไม่ติด เนื่องจากสภาพ
                       ดินฟ้าอากาศมีอิทธิพลต่อการผสมพันธุ์ของอ้อย อย่างไรก็ตามการออกดอกของอ้อยนั้นมีปัจจัย

                       เกี่ยวข้องอยู่หลายประการ ประการ แรกอ้อยพันธุ์นั้นจะต้องเป็นพันธุ์ที่ออกดอก นอกจากนี้แล้ว
                       ปัจจัยอื่นๆ เช่น ช่วงแสง อุณหภูมิ ความชื้น ในดินและอากาศ ปุ๋ยไนโตรเจน เหล่านี้ทำให้อ้อยออก
                       ดอกได้
                                                   นอกจากนี้ยังมีระดับเส้นรุ้งที่อ้อยชื้นอยู่ กับความสูงจาก

                       ระดับน้ำทะเล ทิศทางลม และสภาพของ ดินก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อ้อยออกดอกได้ อ้อยตอจะออกดอก
                       ดีกว่าอ้อยปีแรก การบานของดอกอ้อยจะค่อยๆทยอยบานไปเรื่อย ๆ ใช้เวลา 5 - 12 วัน กว่าจะบาน
                       หมดทุกดอก เมื่ออ้อยเกิดการผสมพันธุ์กันขึ้นจะเกิดเมล็ดในเวลาต่อมา เมล็ดอ้อยมีลักษณะคล้าย
                       เมล็ดข้าวสาลีย่อส่วนลงเล็กมากจนต้องเพ่งดูจึงจะเห็นชัดเจน มีขนาดกว้าง 1.5 มิลลิเมตร ยาว 1-1.5

                       มิลลิเมตร การกระจายของดอกอาศัยลม เมล็ดงอก ไม่ดีถ้าสภาพไม่เหมาะสม ถ้าสภาพเหมาะสมจะ
                       งอกภายใน 2 - 3 วัน
                              1.2 การสร้างน้ำตาล
                                   ใบอ้อยเป็นโรงงานทำน้ำตาลที่แท้จริงเพราะสามารถสร้างน้ำตาลจากวัตถุดิบง่าย ๆ คือ

                       ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ และน้ำจากดิน โดยมีแสงแดดเป็นพลังงาน ขบวนการนี้เรียกว่า
                       การสังเคราะห์แสง (photosynthesis) ส่วนโรงงานทำน้ำตาลนั้นเป็นเพียงผู้สกัดเอาน้ำตาลซึ่งมีอยู่
                       แล้วออกมาจากอ้อยเท่านั้น ในการสร้างน้ำตาลกลูโคส (C6 H12 O6) 1 โมเลกุลนั้นต้องใช้วัตถุดิบ คือ

                       ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 6 โมเลกุลและน้ำ 12 โมเลกุล นอกจากน้ำตาลกลูโคส (C6 H12 O6) แล้วยังมี
                       ออกซิเจนที่ได้จากน้ำ 6 โมเลกุล และน้ำอีก 6 โมเลกุล ดังสมการ
                                            6CO2 + 12H2 O → C6H12 O6 +6O2 + 6H2O

                              การสังเคราะห์แสงประกอบด้วยปฏิกิริยา 2 ขั้น คือ
                              ขั้นแรก เป็นการเปลี่ยนพลังงานแสงแดดซึ่งเป็นพลังงานทีไม่สามารถเก็บได้โดยตรงให้มาอยู่
                       ในรูปสารเคมีที่ให้พลังงานสูง คือ NAKPH (nicotinamide adenine dinucleotide phosphate)
                       และ ATP (adenosine-5-triphosphate) ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นในขณะที่มีแสงเท่านั้น จึงเรียกว่า

                       ปฏิกิริยาต้อง การแสงหรือ “light reaction”
                              ขั้นที่สอง เป็นการนำพลังงานที่ได้จากขั้นแรกมาใช้ในการตรึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2)
                       จะถูกเปลี่ยนเป็นสารประกอบหลายอย่างด้วยการช่วยเหลือของเอนไซม์ (enzyme) หลายชนิดซึ่งทำ

                       หน้าที่โดยเฉพาะเจาะจงจนกระทั่งได้เป็นน้ำตาล ปฏิกิริยานี้ไม่ต้องใช้แสง จึงเรียกว่า ปฏิกิริยาไม่
                       ต้องการแสง หรือ “dark reaction” (กรมส่งเสริมการเกษตร, 2551)
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14