Page 7 - การจัดการดินเปรี้ยวจัดที่เหมาะสมเพื่อความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืชต่อการผลิตของปาล์มน้ำมันที่ปลูกในจังหวัดพัทลุง Appropriate management of acid sulfate soil to increasing the availableof plant nutrient with for manufacture on oil palm in Phattalung
P. 7
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
การตรวจเอกสาร
1. ดินเปรี้ยวจัด
พื้นที่ดินเปรี้ยวจัดสวนใหญแพรกระจายอยูทั่วไปในทุกภาคของประเทศ มีพื้นที่ 6,239,361 ไร
โดยเฉพาะที่ราบลุมภาคกลางตอนใต บริเวณชายฝงทะเลตะวันออกเฉียงใต บริเวณลุมน้ําจันทบุรี และชายฝง
ทะเลตะวันออกของภาคใต สําหรับพื้นที่ชายฝงทะเลตะวันออกของภาคใตตอนลาง พบวา จังหวัดที่มีพื้นที่ดิน
เปรี้ยวมากที่สุดคือ นราธิวาส รองลงมาสงขลา และปตตานี มีพื้นที่ 138,759 136,711 และ 102,313 ไร
ตามลําดับ สวนจังหวัดพัทลุงมีพื้นที่ที่เปนดินเปรี้ยวจัด คิดเปนเนื้อที่ 62,052 ไร หรือรอยละ 2.90 ของพื้นที่
จังหวัด (กรมพัฒนาที่ดิน, 2558) จังหวัดพัทลุงมีพื้นที่ทั้งหมด 2,140,296 ไร ในป 2559 มีพื้นที่ปลูกปาลม
น้ํามัน 44,206 ไร พื้นที่ใหผลผลิตแลว 31,494 ไร ผลผลิตที่ได 83,975.05 ตัน ผลผลิตเฉลี่ยตอไร 2,632.94
กิโลกรัมตอไร (สํานักงานจังหวัดพัทลุง, 2560) ดินเปรี้ยวจัดเปนดินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนน้ํากรอย
หรือตะกอนน้ําทะเลที่มีสารประกอบของธาตุกํามะถันปะปนอยู เมื่อเกิดกระบวนการทางเคมีจะกลายเปนแรไพ
ไรท (FeS2) สะสม และเมื่อมีการระบายน้ําออก หรือระดับน้ําใตดินลดต่ําลงเกินชั้นไฟไรท ออกซิเจนในอากาศ
ก็จะทําปฏิกิริยาออกซิเดชันกับสารไพไรท และปลดปลอยกรดกํามะถัน (H2SO4) ขึ้นในชั้นดิน และพบ
สารประกอบจาโรไซท ที่มีสีเหลืองฟางขาวในชั้นดินดวย ลักษณะทั่วไปของดินเปรี้ยวจัดที่พบในบริเวณที่ราบ
ลุม ดินชั้นบนลึกตั้งแต 20-40 เซนติเมตรเปนดินเหนียวถึงเหนียวจัดมีสีเทาหรือสีเทาเขมถึงดํา มีจุดประสี
น้ําตาลแก สีแดงปนเหลือง และสีแดง มีคาความเปนกรดดาง 4.0-5.5 สวนดินชั้นลางเปนดินเหนียวมีสีพื้นเปน
สีน้ําตาล หรือสีน้ําตาลปนเทาถึงสีเทา มีจุดปะสีเหลืองปนน้ําตาล สีแดง หรือสีเหลืองฟางขาว มีการระบายน้ํา
เลว ความสามารถในการอุมน้ําสูง (นงคราญ, 2536) การเกิดพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดสงผลกระทบตอการใช
ประโยชนที่ดินเพื่อการเกษตรอยางรุนแรงทําใหปลูกพืชไดนอยชนิดและใหผลผลิตต่ํา การปลูกพืชจะไดรับ
ผลกระทบโดยตรงจากความรุนแรงของกรดที่เกิดขึ้นในดินโดยการละลายออกมาของธาตุบางชนิด เชน
อะลูมินัม เหล็ก และแมงกานีส จนถึงระดับที่เปนพิษตอพืช อีกทั้งทําใหธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งเปนธาตุอาหารหลัก
ถูกตรึงใหอยูในรูปที่ไมเปนประโยชนตอพืช หรือถูกดูดดึงไปใชไมได เมื่อปลูกพืชในสภาพน้ําแชขัง แมจะดูวา
เปนการลดความเปนกรดของดินโดยใชน้ํา แตปญหาที่ตามมาก็คือความเปนพิษจากกาซไขเนา จากเหล็กและ
กาซคารบอนไดออกไซด (พิสุทธิ์ และคณะ, 2536)
ดินเปรี้ยวจัดหรือดินกรดกํามะถันมักเปนดินที่มีขอจํากัดของธาตุอาหารพืช พบวา โดยมากจะ
ขาดธาตุ N, P, K, Ca, Mg, S, Cu และ Mo จึงตองมีการเพิ่มใหกับพืช ดินกรดจะมีธาตุที่ละลายไดในชวง pH
ต่ําออกมามากกวาปกติ เชน อะลูมินัม, เหล็ก เปนตน เมื่อมีการใชปุยเคมีจึงตองใชอัตราที่สูง เนื่องจากมีธาตุ
อาหารบางสวนถูกตรึงโดยธาตุตางๆ เชน ฟอสฟอรัสจะถูกตรึงโดยอะลูมินัมและเหล็ก ปุยแอมโมเนียมและ
โพแทสเซียมก็ถูกชะลางไดงาย หากมีการใชปุยเคมีรวมกับปุยอินทรีย ปุยเคมีจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เนื่องจากสารอินทรียจะจับกับอะลูมินัมและเหล็ก เปนสารประกอบเชิงซอน ลดการตรึงฟอสฟอรัสไดระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ ปุยอินทรียยังจับปุยแอมโมเนียมไดบางสวน ทําใหลดการสูญเสียชะลางไปไดบาง (เจริญและคณะ,
2540) ความเปนพิษของสารประกอบตางๆที่ละลายออกมาในสภาพดินที่เปนกรดจัด เชน ความเปนพิษของ
อะลูมินัม เมื่อ pH ลดลง 1 หนวย ปริมาณของอะลูมินัมที่ละลายไดจะเพิ่มขึ้นเปน 10 เทา อะลูมินัมจะสะสม
ในเนื้อเยื่อของราก ทําใหพืชยับยั้งการแบงตัวของเซลลและเอนไซมที่เกี่ยวของกับการสรางผนังเซลล ทําให
ระบบรากพืชไมเจริญเติบโต และความเปนพิษของธาตุเหล็กจะสงผลตอการเจริญเติบโตของพืช กาซ
ไฮโดรเจนซัลไฟดในดินเปรี้ยวจัด จะทําลายการทํางานของระบบรากพืชทําใหรากเนาหรือออนแอตอการเกิด
โรค เปนตน (พิสุทธิ์ และคณะ, 2536) พื้นที่ดินเปรี้ยวจัดเปนดินที่กอใหเกิดปญหาเปนอยางมากตอระบบ
เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยดินเปรี้ยวจัดเปนสาเหตุสําคัญที่ทําใหการเจริญเติบโตและผลผลิตพืช
ตกต่ํา เพราะทําใหความเปนประโยชนของธาตุอาหารหลักของพืชลดลง หรือมีไมเพียงพอตอความตองการของ
2