Page 19 - นวปฏิบัติตามความสมัครใจเพื่อการจัดการดินอย่างยั่งยืน (Voluntary Guidelines for Sustainable Soil Management) : แปลจากเอกสารเผยแพร่ เรื่อง "Revised World Soil Chartar" ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization (FAO) of the United Nations)
P. 19
Voluntary Guidelines for Sustainable Soil Management 11
• ควรมีการเผยแพร่ข้อมูลสถานที่ซึ่งพบปัญหาดินปนเปื้อน ออกสู่สาธารณชน
• ไม่ควรใช้ดินที่มีการปนเปื้อนเพื่อการผลิตอาหารทั้งของมนุษย์และสัตว์
• ควรมีการทดสอบวัสดุปรับปรุงดินที่ได้มาจากน้ำเสียซึ่งผ่านการบำบัดแล้วหรือวัสดุเหลือใช้อื่นๆ อย่างเหมาะสม
เพื่อให้แน่ใจว่ามีสารปนเปื้อนในระดับที่ปลอดภัยและมีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ตัวอย่างเช่น สารอินทรีย์
แปลกปลอม (xenobiotics) ที่สามารถก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อดิน โดยเป็นผลเสียถาวรต่อความอุดมสมบูรณ์
ของดินและสุขภาพของมนุษย์
• ควรลดการไหลของออกของน้ำที่ท่วมพื้นที่เพาะปลูกข้าวโดยเฉพาะหลังจากใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช
เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่ข้างเคียง
3.6 การป้องกันและลดการเกิดกรดในดิน
ความเป็นกรดของดินในพื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ซึ่งเกิดจากกิจกรรมมนุษย์ เกิดจากการกำจัดแคตไอออนที่มี
สมบัติเป็นด่างและการสูญเสียความสามารถของดินในการต้านทานการเปลี่ยนแปลงค่าปฏิกิริยา หรือการเพิ่มขึ้นของไนโตรเจน
และซัลเฟอร์ (เช่น ปัจจัยการผลิตปุ๋ยพืชตระกูลถั่ว การทับถมของสารพิษจากชั้นบรรยากาศ) ดินที่มีค่าความสามารถใน
การต้านทานการเปลี่ยนแปลงค่าปฏิกิริยาต่ำและ/หรือมีปริมาณอลูมิเนียมสูงจะพบได้บ่อยโดยเฉพาะเมื่อดินเหล่านั้นมีแร่ธาตุ
ย่อยสลายง่ายในปริมาณต่ำ (เช่น ดินที่มีการย่อยสลายสูง ดินที่มีพัฒนาการมานาน และดินที่พัฒนาจากวัตถุต้นกำเนิดดินพวก
ควอตซ์)
• ตรวจสอบความเป็นกรดของดินและลดความเป็นกรดบนผิวดินรวมทั้งในชั้นดินให้เหลือน้อยที่สุดด้วยการใช้วิธีการ
ที่เหมาะสม (เช่น วัสดุปูน ยิปซั่ม และเถ้า เป็นต้น)
• ใช้ปุ๋ยเคมีและวัสดุปรับปรุงดินอินทรีย์อย่างสมดุล
• ใช้ปุ๋ยที่มีฤทธิ์ก่อให้เกิดกรดในดินอย่างเหมาะสม
3.7 การรักษาและเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพของดิน
ดินเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตในดินยังมีบทบาท
สำคัญต่อการบริการเชิงนิเวศ ในปัจจุบันถึงแม้ความรู้ทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพในการรักษาหน้าที่หลักของดินยังคง
มีข้อจำกัด แต่เทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการศึกษาทางชีวเคมีและการวิเคราะห์ดีเอ็นเอได้ชี้ให้เห็นว่าความก้าวหน้าทางด้าน
ความรู้เหล่านี้ยังคงมีความจำเป็นในการศึกษาต่อยอดในอนาคต
• ควรดำเนินการติดตามและศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของดินรวมถึงตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (เช่น พิษวิทยาเชิง
นิเวศของชุมชน) และสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า
• ระดับของอินทรียวัตถุในดินที่สนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพของดินควรได้รับการดูแลรักษาหรือปรับปรุง
ให้ดีขึ้นด้วยการคุ้มครองพืชให้มีในปริมาณที่เพียงพอ (เช่น การปลูกพืชคลุมดิน การปลูกพืชหลายชนิด เป็นต้น)
การใช้ธาตุอาหารอย่างเหมาะสม การใช้วัสดุอินทรีย์ที่หลากหลาย การลดการรบกวนดิน การลดกรรมวิธีที่ทำให้เกิด
การสะสมเกลือ และการรักษาพืชพรรณ เช่น แถบพุ่มไม้และแนวกำบังต้นไม้
• การอนุญาตและการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในระบบการเกษตรควรเป็นไปตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในจรรยาบรรณการใช้
สารกำจัดศัตรูพืชและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของประเทศ และควรส่งเสริมให้มีการจัดการศัตรูพืชแบบ
ผสมผสานหรือแบบอินทรีย์