Page 66 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่โครงการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อดินถล่ม บ้านนาหมัน หมู่ที่ 4 ตำบลแม่จริม อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
P. 66
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
53
3) เพื่อรักษาระดับอินทรียวัตถุในดิน รวมถึงการควบคุมอัตราการสลายตัว และการ
เพิ่มซากพืชและสัตว๑ให๎แกํดิน
4) เพื่อรักษาสมบัติทางกายภาพและเคมีของดิน ให๎มีสภาพที่เหมาะสมตํอการ
เจริญเติบโตของพืช รวมถึงการปรับปรุงบ้ารุงดินให๎ดินมีสมบัติที่ดีขึ้น
5) เพื่อรักษาน้้าและความชื้นในดิน รวมถึงการใช๎ทรัพยากรน้้าในพื้นที่ให๎เกิด
ประโยชน๑สูงสุด (พิทยากร, 2553)
กรมพัฒนาที่ดิน ได๎มีการก้าหนดปริมาณการสูญเสียดินสูงสุดที่ยอมรับได๎ ส้าหรับดิน
ในประเทศไทยเป็น 2 ตันตํอไรํตํอปี ซึ่งการสูญเสียดินในระดับนี้จะไมํท้าให๎สมรรถนะของดินส้าหรับ
การเกษตรเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลา 25 ปี และคําการสูญเสียดินที่สูงกวําระดับนี้จะมีผลเสียหาย
ตํอคุณภาพดินและผลผลิตพืชในระยะยาว อัตราการสูญเสียดินในพื้นที่เกษตรกรรมของประเทศไทย
อยูํระหวําง 0-50 ตันตํอไรํตํอปี แสดงวําในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงตํอการชะล๎างพังทลาย จะเกิดการ
สูญเสียดินที่รุนแรงทั้งอัตราและปริมาณ ผลกระทบจากการสูญเสียดินในพื้นที่สํงผลตํอความสามารถ
ในการให๎ผลผลิตของดินและรายได๎ของเกษตรกรลดลง ท้าให๎เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพสิ่งแวดล๎อม
และสํงผลตํอโครงสร๎างทางวิศวกรรมและอุตสาหกรรม เชํน การท้าลายโครงสร๎างถนน ท้าให๎ทางน้้า
และแหลํงน้้าตื้นเขิน เป็นต๎น (กรมพัฒนาที่ดิน, 2558) นอกจากนี้ยังประเมินการสูญเสียธาตุอาหารใน
ดินที่ถูกพัดพาจากพื้นที่ลุํมน้้าในด๎านอัตราการสูญเสียในรูปของตะกอนดินและธาตุอาหารพืชและ
คุณคําทางเศรษฐกิจในรูปของปุ๋ย พบวํา มูลคําธาตุอาหารพืชจากตะกอนดินที่ถูกชะล๎างไปทั่วประเทศ
จะสูญเสียธาตุไนโตรเจนในรูปของปุ๋ยยูเรีย ประมาณ 294,128 ตันตํอปี ปริมาณฟอสฟอรัสในรูปของ
ปุ๋ยทริปเปิลซุปเปอร๑ฟอสเฟต ประมาณ 275,040 ตันตํอปี และปริมาณโพแทสเซียมในรูปของปุ๋ย
โพแทสเซียมคลอไรด๑ ประมาณ 1,040,314 ตันตํอปี (กรมพัฒนาที่ดิน, 2556)
3.9.1 มาตรการอนุรักษ๑ดินและน้้า
ความลาดชันเป็นปัจจัยส้าคัญที่กํอให๎เกิดการชะล๎างพังทลายของดิน ดังนั้น มาตรการอนุรักษ๑
ดินและน้้า จึงผันแปรไปตามความลาดชัน ตั้งแตํลักษณะพื้นที่ราบ พื้นที่ดอน และพื้นที่สูง ซึ่ง
มาตรการอนุรักษ๑ดินและน้้าที่ใช๎กันแบํงออกตามลักษณะของมาตรการได๎ 2 ประเภท คือมาตรการวิธี
กล (Mechanical measures) และมาตรการวิธีพืช (Vegetative measures) การเลือกใช๎มาตรการ
ใดนั้นควรพิจารณาลักษณะของดิน ภูมิประเทศ ปริมาณน้้าฝน และการใช๎ประโยชน๑ที่ดิน โดยเลือก
วิธีการผสมผสานมาตรการให๎เหมาะสมเพื่อให๎การท้าการเกษตรเกิดความยั่งยืน และชํวยเสริมให๎การ
อนุรักษ๑ดินและน้้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1) มาตรการวิธีกล (Mechanical measures) เป็นวิธีการปรับสภาพของพื้นที่ เพื่อ
ลดความยาวและความลาดเทของพื้นที่ เพื่อลดความสามารถในการเคลื่อนย๎ายตะกอนดิน โดยการ
สร๎างสิ่งกีดขวางความลาดเทของพื้นที่และทิศทางการไหลของน้้า เพื่อชํวยควบคุมน้้าไหลบําหน๎าดิน
ลดและชะลอความเร็วของกระแสน้้า วิธีการนี้ต๎องใช๎เทคนิคความรู๎ แรงงาน เครื่องมือและงบประมาณ
สูง ซึ่งการใช๎มาตรการอนุรักษ๑ดินและน้้าวิธีกลให๎เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และปัจจัยตําง ๆ ดังนี้