Page 66 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 66

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                       50



                   4x6 เมตร หรือ 5x7 เมตร หรือ 6x8 เมตร หลุมปลูกในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ควรมีขนาด 50x50x50
                   เซนติเมตร ส่วนหลุมปลูกในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ปานกลางควรมีขนาด 70x70x70 เซนติเมตร และใช้วัสดุ

                   ปรับปรุงดินเพิ่มมากขึ้น ผสมดินล่างกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตราส่วน 2:1 จากนั้นกลบดินชั้นบนลงใน
                   หลุมแล้วตามด้วยดินชั้นล่าง ควรกลบดินให้สูงกว่าขอบปากหลุมเดิมเผื่อการยุบตัวหลังจากรดน้่าหรือฝน
                   ตก ช่วยให้ไม่เกิดแอ่งรอบโคนต้น

                            3.7.4 การใช้ปุ๋ยส่าหรับพืชชนิดต่าง ๆ (กรมพัฒนาที่ดิน, 2548)
                              1) ข้าวไร่ พันธุ์ไม่ไวต่อช่วงแสง ครั้งแรกใช้ปุ๋ยสูตร 26-14-0 อัตรา 43 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับ

                   ปุ๋ยสูตร 0-0-22 อัตรา 10  กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนครั้งที่สองใช้ปุ๋ยสูตร 21-0-0  อัตรา 15-30  กิโลกรัมต่อไร่
                   ส่วนข้าวไร่พันธุ์ไวต่อช่วงแสง ครั้งแรกใช้ปุ๋ยสูตร 26-14-0 อัตรา 28 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยสูตร 0-0-22
                   อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ ครั้งที่สองใช้ปุ๋ยสูตร 21-0-0 อัตรา 15-30 กิโลกรัมต่อไร่
                              2) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ใช้ปุ๋ยผสมระหว่างปุ๋ยสูตร 20-20-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ และปุ๋ย

                   สูตร 0-0-22 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ ปุ๋ยแบ่งใส่เป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกใส่เพียง 1/3 รองก้นหลุมพร้อมปลูก
                   ครั้งที่สองใส่ส่วนที่เหลือทั้งหมด (2/3) โดยโรยข้างแถวแล้วพรวนกลบ เมื่อข้าวโพด มีอายุระหว่าง 3-4
                   สัปดาห์
                              3) ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ใช้ปุ๋ยเคมีแบ่งใส่ 2 ครั้งเท่า ๆ กัน โดยจะใช้ปุ๋ยผสมกันระหว่างปุ๋ยสูตร

                   20-20-0 กับปุ๋ยสูตร 0-0-22 ที่อัตรา 50 และ 10 กิโลกรัมต่อไร่ ตามล่าดับ ครั้งแรกใส่รองก้นหลุมพร้อม
                   ปลูก ครั้งที่สองใส่ข้างแถวปลูกแล้วพรวนกลบที่อายุประมาณ 3-4 สัปดาห์
                              4) ถั่วลิสง ส่าหรับพื้นที่ไม่เคยปลูกถั่วลิสงมาก่อน หรือเคยปลูกแต่เว้นมานานแล้ว แนะน่าให้
                   คลุกด้วยเชื้อไรโซเบียมส่าหรับถั่วลิสงพร้อมปลูก ส่าหรับปุ๋ยเคมี ใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อ

                   ไร่ ร่วมกับปุ๋ยสูตร 0-0-22 อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ จะใส่ทั้งหมดครั้งเดียว เมื่ออายุได้ 1-3 สัปดาห์หลังปลูก
                   โดยใส่ข้างแถวแล้วพรวนกลบ
                              5) มะม่วง ก่อนปลูกควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้วร่วมด้วยหินฟอสเฟต และ

                   ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ในอัตรา 5-10, 0.5 และ 0.2 กิโลกรัมต่อต้น ตามล่าดับ เมื่อมะม่วงอายุ 1-2 ปี ใช้ปุ๋ยสูตร
                   15-15-15 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้น และเมื่อมะม่วงอายุประมาณ 3 ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่ให้ผลผลิตแล้ว จึงแบ่ง
                   ระยะการให้ปุ๋ยเป็น 4 ระยะ คือ 1) ระยะบ่ารุงต้นหลังเก็บเกี่ยวใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อ
                   ต้น ปุ๋ยในระยะนี้ควรให้ซ้่าเมื่อมะม่วงแตกใบอ่อนชุดที่ 2 แล้ว 2) ระยะเร่งสร้างตาดอก ใช้ปุ๋ยสูตร 12-24-
                   12 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้น ส่าหรับมะม่วงอายุ 2-4 ปี, อัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น ส่าหรับมะม่วง อายุ 5-7 ปี

                   และอัตรา 5 กิโลกรัมต่อต้น ส่าหรับมะม่วงอายุ 8 ปีขึ้นไปตามล่าดับ 3) ระยะบ่ารุงผล ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15
                   อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้น และ 4) ระยะปรับปรุงคุณภาพผลผลิตใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้น
                   ร่วมกับการพ่นปุ๋ยทางใบ

                              6) ล่าไย อายุ 1-3 ปี (หลังแตกใบอ่อนชุดที่ 1) ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15  และปุ๋ยสูตร 46-0-0  ใน
                   อัตราเท่ากัน คือ 1 กิโลกรัมต่อต้น อายุ 4 ปี ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15  และสูตร 46-0-0
                   ในอัตราเท่ากัน คือ 1 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับใช้ปุ๋ยสูตร 0-52-34 อัตรา 0.2 กิโลกรัมต่อต้น ต่อน้่า 20 ลิตร
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71