Page 49 - การพัฒนาและป้องกันการแพร่กระจายพื้นที่ดินเค็มในเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำลำเสียวน้อยตอนบน - ห้วยกุดแดง อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด
P. 49
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
40
ที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลิตภาพของดินในการผลิตข้าว วิธีการหนึ่ง คือ การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของ
ดินด้วยการปรับปรุงบ้ารุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด เช่น โสนอัฟริกัน ดังนั้น จึงได้ด้าเนินการจัดท้าแปลงสาธิต
การปลูกโสนอัฟริกันเป็นปุ๋ยพืชสดในพื้นที่ เพื่อเป็นการสาธิตให้เกษตรกรได้เห็นตัวอย่างการปรับปรุง
บ้ารุงดิน และเพิ่มผลผลิตข้าวในพื้นที่
การด้าเนินงาน มีขั้นตอนคือ
(1) คัดเลือกแปลงนาที่มีปัญหาดินเค็มในระดับน้อยถึงปานกลาง อยู่ใกล้เส้นทาง
คมนาคม เป็นแปลงสาธิต จ้านวน 10 ไร่
(2) เก็บตัวอย่างดินน้าไปวิเคราะห์หาปริมาณอินทรียวัตถุ (%OM) ปริมาณไนโตรเจน
(N) ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (Avail.P) โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (Avail.K) ค่าความเป็นกรดเป็น
ด่างของดิน (pH) และค่าการน้าไฟฟูาของดิน (EC)
(3) การเตรียมดิน ไถกลบตอซังและฟางข้าว พร้อมหว่านเมล็ดพันธุ์โสนอัฟริกันที่ผ่าน
การแช่ในน้้าเดือดนาน 2 นาที แล้วแช่น้้าเย็นเพื่อท้าลายระยะพักตัวของเมล็ดแล้ว หว่านลงในดิน
ในอัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วสับกลบหรือไถกลบเมื่อออกดอกเต็มที่
(4) ปรับปรุงบ้ารุงดินในแปลงด้วยปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และแกลบดิบ
(5) ปลูกข้าวพันธุ์ทนเค็มซึ่งเกษตรกรใช้ข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยวิธีปักด้าต้นกล้า
เมื่ออายุ 30-35 วัน ใช้ระยะปักด้า 20 x 20 เซนติเมตร จะท้าให้มีอัตรารอดตายสูงขึ้น
(6) ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-8 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ โดยแบ่งใส่ 3 ระยะ ระยะแรกใส่
หลังปักด้า 7-10 วัน ระยะที่สองใส่ระยะข้าวแตกกอ ระยะที่สามใส่ระยะข้าวตั้งท้อง ไม่ควรใส่ปุ๋ยรอง
พื้นเพราะปุ๋ยเคมีจะไปเพิ่มค่าการน้าไฟฟูาในดิน
(7) ฉีดพ่นน้้าหมักชีวภาพจากสารเร่ง พด.2 อัตรา 20 ลิตรต่อไร่ แบ่งใส่ 4 ครั้ง คือ
ช่วงเตรียมดิน หลังปักด้าข้าว 30 50 และ 60 วัน
(8) ดูแลรักษาแปลงสาธิตและเก็บเกี่ยวผลผลิต
(9) เก็บตัวอย่างดินหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเพื่อเปรียบเทียบ
ผลการด้าเนินงานและการติดตามผล พบว่า เมื่อใช้โสนอัฟริกันเป็นปุ๋ยพืชสดในแปลง
นาสาธิตติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2 ปี (เดือนตุลาคม 2558 - กุมภาพันธ์ 2560) มีผลท้าให้โครงสร้าง
ของดินดีขึ้น ดินร่วนซุยและโปร่งขึ้น และช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน การปักด้าข้าวในฤดูการผลิตที่ 2
ท้าได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความเค็มของดินทางอ้อม เนื่องจากดินร่วนซุยท้าให้เกลือถูกชะลงในดินล่าง
ได้ง่ายขึ้น (ภาพที่ 15)
จากผลการวิเคราะห์ดินในแปลงสาธิต (ตารางที่ 6) พบว่า ก่อนด้าเนินการจัดท้าแปลง
สาธิต ดินมีปริมาณอินทรียวัตถุอยู่ในระดับต่้ามาก (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น
ประโยชน์อยู่ในระดับต่้ามาก (7 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์อยู่ในระดับ