Page 12 - การจัดการปุ๋ยหมักและปุ๋ยชีวภาพร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอฮอลแลนด์ในดินทราย
P. 12
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
3
ปุ๋ยหมักภายใต้สภาพดินทรายในการปลูกข้าวสาลีอัตรา 3 6 และ 11 ตันต่อไร่ โดยใส่ทุกปีก่อนปลูก
พืชเป็นระยะเวลา 3 ปี เก็บตัวอย่างดิน 1 เดือน หลังการใช้ปุ๋ยหมัก และหลังจากการเก็บผลผลิต
พืชในแต่ละปี พบว่าดินมีความพรุน การอุ้มน้ าเพิ่มขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (Weber
et al., 2007) นอกจากนี้ จากการใช้ปุ๋ยหมักฟางข้าวอัตรา 2 ตันต่อไร่ ติดต่อกันเป็นเวลา 11 ปี
สามารถปรับปรุงดินให้มีความหนาแน่นดินลดลงเท่ากับ 1.55 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร
เปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียวมีความหนาแน่นดินเท่ากับ 1.63 กรัมต่อลูกบาศก์
เซนติเมตร (ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2547) จากการใช้ปุ๋ยหมักช่วยในการอุ้มน้ าให้พืชใช้ได้ในระยะยาวขึ้น
ลดความหนาแน่นในดิน เนื่องมาจากในปุ๋ยหมักที่มีสารประกอบฮิวมัสที่มีประจุลบจะดูดยึดกับธาตุ
อาหารที่มีอยู่ในกองปุ๋ยหมักและอนุภาคดินเกาะตัวกัน ช่วยให้การระบายอากาศ และการอุ้มน้ าดีขึ้น
ส่งผลให้น้ าในดินเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชได้มากขึ้น จะเห็นได้ว่าดินที่มีอินทรียวัตถุ
สูงจะช่วยให้พืชทนอยู่ได้ถึงแม้ประสบปัญหาฝนแล้ง (กรมพัฒนาที่ดิน, 2540) ทั้งนี้ หากมีการใช้ปุ๋ย
หมักเป็นเวลา 5 ปี จะมีผลท าให้สมบัติทางกายภาพ การดูดยึดน้ าและการซึมซับน้ าของดินดีขึ้น มี
ความสมดุลในการแลกเปลี่ยนธาตุอาหาร เพิ่มธาตุอาหารมีสมบัติทางเคมีที่เหมาะสมส าหรับพืช
(Chueysai et al., 1986)
2.2 การปรับปรุงสมบัติทางเคมีดินทราย
วัสดุอินทรีย์ชนิดต่างๆ มาจากพื้นที่ทางการเกษตรและอุตสาหกรรมทางการเกษตร
สามารถน ามาผลิตปุ๋ยหมักที่มีทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม จากการ
วิเคราะห์ธาตุอาหารปุ๋ยหมัก 1 ตัน มีคุณค่าทางอาหารพืชโดยเฉลี่ยของไนโตรเจน 7.90 กิโลกรัม
ฟอสฟอรัส 2.80 กิโลกรัม และโพแทสเซียม 21.90 กิโลกรัม (กรมพัฒนาที่ดิน, 2540) การ
ปลดปล่อยธาตุอาหารละลายออกมาอย่างช้าๆ จากกิจกรรมจุลินทรีย์ดินย่อยสลายสารอินทรีย์
คาร์บอนกลายเป็นสัดส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนในปริมาณต่ าท าให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างต่อเนื่อง
จากการทดลองของ Bhattacharyya et al. (2005) ได้ทดสอบการใช้ปุ๋ยหมัก และการใส่ปุ๋ยเคมี
เทียบเท่ากับปริมาณไนโตรเจน 9.23 กิโลกรัมต่อไร่ ในพื้นที่ปลูกข้าวตลอดระยะเวลา 3 ปี พบว่า
การใช้ปุ๋ยหมักร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีจะส่งเสริมให้ดินมีการสะสมออแกนิคคาร์บอนเท่ากับ 15.07 กรัม
ต่อกิโลกรัม มากกว่าการใช้ปุ๋ยหมักมีออร์แกนิคคาร์บอนเท่ากับ 14.74 กรัมต่อกิโลกรัม ตลอด
ระยะเวลา 3 ปี การใช้ปุ๋ยหมัก ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีสามารถปรับปรุงดิน เพิ่มธาตุอาหาร และ
จุลินทรีย์ดินเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตและผลผลิตพืชได้เป็นอย่างดีที่สุด และ Bar-Tal et al. (2004)
ได้ศึกษาการดูดใช้ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าว
สาลีจากการใช้ปุ๋ยหมักกากตะกอน และปุ๋ยคอก อัตรา 12 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ระยะเวลา 3 ปี
พบว่า การใช้ปุ๋ยหมักในปีแรกข้าวสาลีดูดใช้ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเท่ากับ
18.45 7.25 และ 71.10 กรัมต่อตารางเมตร ตามล าดับ และในปีที่ 3 มีการน าธาตุอาหารไปใช้ได้