Page 56 - คู่มือการวิเคราะห์ดินทางเคมีเพื่อประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดิน
P. 56
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
48
บทบำทของพีเอชต่อกิจกรรมของจุลินทรีย์ดิน
จุลินทรีย์ในดินมีบทบาทส าคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่
เกี่ยวข้องกับการแปรสภาพของอินทรียวัตถุในดิน ความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืชในดิน การ
ตรึงก๊าซไนโตรเจนของพืชตระกูลถั่วและอื่นๆ โดยทั่วไปจุลินทรีย์ในดินส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
แบคทีเรีย (bacteria) และแอคติโนไมชีสต์ (actinomycetes) จะเจริญได้ดีในดินที่มีค่าความเป็นกรด
เป็นด่างอยู่ในระดับเป็นกรดถึงเป็นกลางหรือเป็นด่างเล็กน้อย (pH 6.0-8.0) และถ้าดินมีความเป็น
กรดมากกว่านี้ (pH <6.0) จะท าให้กิจกรรมของแบคทีเรียและแอคติโนไมชีสต์ในดินลดลงและมีผล
ในทางลบต่อกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชในดิน เช่น กระบวนการปลดปล่อยธาตุอาหารพืชจากการ
แปรสภาพของอินทรีย์สารในดิน (mineralization pocess) และกระบวนการตตรึงก๊าซไนโตรเจน
ของพืชตระกูลถั่ว (symbiotic nitrogen fixaton process) เป็นต้น
บทบำทของพีเอชของดินต่อกำรเจริญเติบโตของพืช
ระดับพีเอชของดินนั้น อาจระบุเป็นตัวเลขโดยประมาณไม่จ าเป็นต้องบอกค่าพีเอชของดิน
ที่แท้จริงเสมอไป ดังนั้นค่าพีเอชของดินที่วัดได้ถึงแม้ว่าจะผิดพลาดไปเล็กน้อยก็ยังมีความหมายซึ่ง
น าไปใช้เป็นประโยชน์ในการพิจารณาสภาพกรดและด่างของดินได้ ฉะนั้นการบอกปฏิกิริยาดินแต่
เพียงว่าเป็นกรดจัด ปานกลาง หรือกรดเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว อีกประการหนึ่งเกษตรกรมักจะเข้าใจ
พืชที่ปลูกในดินแต่และชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ดีในช่วงพีเอชที่แตกต่างกัน โดยปกติ
แล้วพืชส่วนใหญ่ชอบดินที่มีความเป็นกรดเล็กน้อยจนถึงเป็นกลาง (pH 6.0-7.0) และในดินชนิด
เดียวกัน พืชชนิดหนึ่งอาจเจริญเติบโตได้ดี แต่พืชอีกชนิดหนึ่งอาจแสดงอาการขาดธาตุบางธาตุได้
หรือในดินชนิดเดียวกัน พืชต่างชนิดกันอาจแสดงอาการขาดธาตุแตกต่างกันได้ ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า
ค่าพีเอชของดินสามารถใช้ประเมินสถานะของธาตุอาหารในดินได้อย่างคร่าวๆ
แนวทางการแก้ไข กรณีถ้าดินเป็นกรดจัดและต้องการแก้ไขความเป็นกรดเป็นด่างของดิน
วัสดุหรือสารเคมี ที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ปูนขาว ปูนโดโลไมท์ ปูนมาร์ลหรือหินปูนฝุ่น ปริมาณการใช้
ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อดิน และค่าพีเอช
ถ้าดินเป็นด่างหรือมีค่าพีเอชของดินมากกว่า 7 การแก้ไขจะมีอยู่ 2 วิธี คือ ดินเป็นด่าง
เพราะมีปูนปะปน หรือเป็นดินที่มีปริมาณเกลือมากจนเป็นอันตรายต่อพืชที่ปลูก ส าหรับดินด่างที่มี
สาเหตุมาจากการมีปูนปะปน ส่วนมากจะพบในบริเวณที่มีภูเขาหินปูน ผลของการมีปูนมากเกินไป
อาจท าให้พืชตระกูลถั่วขาดธาตุเหล็ก และท าให้ผลผลิตต่ า โดยเฉพาะถั่วลิสงจะมีปัญหามาก วิธีแก้ไข
ก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงการปลูกพืชตระกูลถั่ว แต่ถ้าต้องการปลูกจริงๆ อาจแก้ไขโดยการให้ธาตุเหล็ก
ทางใบ โดยการใช้น้ ายาเหล็กคีเลทพ่น ส่วนดินด่างที่เป็นพวกดินเค็ม การแก้ไขปัญหา มักท าได้ยาก
และต้องการการลงทุนสูง ทางที่ดีควรเลือกชนิดของพืชทนเค็มหรือพันธุ์พืชที่ทนเค็มมาปลูก แต่ก็คง
ใช้ได้ในความเค็มระดับหนึ่ง ถ้าในฤดูแล้งบริเวณพื้นดังกล่าวจะมีคราบเกลือเกิดขึ้นบนผิวดิน การแก้ไข
ปัญหาเรื่องความเค็มของดินท าได้ค่อนข้างยาก และอาจไม่คุ้มกับการลงทุน (พิสุทธิ์, 2540 )