Page 33 - ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ต่อการปลูกคะน้าในชุดดินบางกอก
P. 33

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                        23







                                                    ผลการทดลองและวิจารณ์

                       1.  การทดลองปี 2557


                            1.1 การเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน

                                    1.1.1 สมบัติทางเคมีของดินก่อนการทดลอง จากการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของดินก่อน
                       การทดลอง พบว่าค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน เฉลี่ยเท่ากับ 5.48 เป็นดินมีสภาพเป็นกรดจัด

                       ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เฉลี่ยเท่ากับ 2.28 เปอร์เซ็นต์ จัดว่ามีปริมาณอินทรียวัตถุในดินระดับปาน

                       กลาง ค่าการน าไฟฟ้าของดิน เฉลี่ยเท่ากับ 1.99  เดซิซีเมนส์ต่อเมตร จัดอยู่ในระดับเค็มจัด (ตาราง
                       ภาคผนวกที่ 5) ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน เฉลี่ยเท่ากับ 77 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จัดอยู่

                       ในระดับสูง ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 280 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จัด

                       อยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน (ตารางที่ 1)
                       ตารางที่ 1  สมบัติทางเคมีของดินก่อนการทดลองปี 2557

                                    สมบัติทางเคมีของดิน                      ค่าที่วิเคราะห์ได้ (เฉลี่ย)

                       ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง                                        5.48
                       ค่าการน าไฟฟ้า 1: 5 (dS/m)                                    1.99

                       ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (%)                                   2.28

                       ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน (mg/kg)                     77
                       ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน (mg/kg)                  280


                                1.1.2 สมบัติทางเคมีของดินหลังการทดลอง

                                     1) ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน

                                         จากการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของดินหลังการเก็บผลผลิตคะน้า พบว่า
                       ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติ กล่าวคือ การไม่ใส่

                       ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยตามค าแนะน าของกรมวิชาการเกษตร สูตร 15-15-15 อัตรา 34 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่
                       ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ และการใส่ปุ๋ยตามวิธีเกษตรกร สูตร 25-7-7 อัตรา

                       160 กิโลกรัมต่อไร่ มีผลให้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินเพิ่มขึ้น และไม่แตกต่างกันทางสถิติ

                       ระหว่างวิธีการดังกล่าว แต่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการ
                       การใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน สูตร 46-0-0 (ปุ๋ยยูเรีย) อัตรา 44 กิโลกรัมต่อไร่ มีผลค่าความเป็น

                       กรดเป็นด่างของดินลดลง ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินหลังการทดลองเท่ากับ 4.75 เมื่อ
                       เปรียบเทียบกับดินก่อนการทดลองที่มีค่าเท่ากับ 5.48 (ตารางที่ 2) ทั้งนี้ เนื่องจากการใส่ปุ๋ยเคมีตาม

                       ค่าวิเคราะห์ดิน สูตร 46-0-0 (ปุ๋ยยูเรีย) อัตรา 44 กิโลกรัมต่อไร่ เป็นปุ๋ยไนโตรเจนชนิดหนึ่งเมื่อใส่ปุ๋ย

                       ลงไปในดินท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากขบวนการไนตริฟิเคชั่น (Nitrification) เป็นขบวนการที่
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38