Page 36 - ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ต่อการปลูกคะน้าในชุดดินบางกอก
P. 36

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                        26







                                     5) ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน
                                        จากการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของดินหลังการเก็บผลผลิตคะน้า พบว่า ปริมาณ
                       โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติ กล่าวคือ การใส่ปุ๋ย

                       อินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ มีโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินเฉลี่ยเท่ากับ 252

                       มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับก่อนการทดลอง โดยการใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีเกษตรกร
                       สูตร 25-7-7 อัตรา 160 กิโลกรัมต่อไร่ มีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินสูงสุด 285

                       มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นวิธีการเดียวที่มีปริมาณโพแทสเซียมในดินหลังการทดลองเพิ่มขึ้น และไม่
                       แตกต่างกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่มีโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน 272 มิลลิกรัมต่อ

                       กิโลกรัม และพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติกับวิธีการไม่ใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยเคมี

                       ตามค าของแนะน ากรมวิชาการสูตร 15-15-15 อัตรา 34 กิโลกรัมต่อไร่ และการใส่ปุ๋ยตามค่า
                       วิเคราะห์ดิน สูตร 46-0-0 อัตรา 44 กิโลกรัมต่อไร่ ที่มีปริมาณโพแทสเซียมลดลงในดินเท่ากับ 242

                       245 และ 218 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามล าดับ (ตารางที่ 2)
                                     การเพิ่มขึ้นของปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินหลังการทดลองในวิธีการ

                       ใส่ปุ๋ยเคมีตามวิธีเกษตรกร สูตร 25-7-7 อัตรา 160 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากการใส่ปุ๋ยเคมีที่มีธาตุ

                       โพแทสเซียมเป็นองค์ประกอบและมีการใส่ในอัตราสูง การใส่ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง อัตรา 100
                       กิโลกรัมต่อไร่ แม้จะมีค่าลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการทดลอง แต่พบว่ามีปริมาณโพแทสเซียม

                       ตกค้างในดินในระดับสูงเช่นเดียวกัน และเกิดจากการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในการ
                       ผลิตปุ๋ยมีโพแทสเซียมเป็นองค์ประกอบ และปุ๋ยที่ผลิตได้มีผลวิเคราะห์ปริมาณโพแทสเซียมเท่ากับ

                       2.87เปอร์เซ็นต์ ปริมาณอินทรียวัตถุเท่ากับ 51.16 เปอร์เซ็นต์ (ตารางผนวกที่ 3) จึงมีการดูดซับธาตุ

                       อาหารประจุบวกที่เป็นด่าง ไม่ให้เกิดการชะล้างออกจากดินสู่ระดับน้ าใต้ดิน นอกจากนี้อินทรียวัตถุมี
                       ผิวหน้าสัมผัสมากและมีประจุไฟฟ้าลบเป็นส่วนใหญ่ ท าให้ลดการสูญเสียธาตุอาหารต่างจากปุ๋ยเคมีที่

                       ละลายน้ าได้เร็วและง่าย เช่น ไนโตรเจน และโพแทสเซียม (ฉวีวรรณ และคณะ, 2543) การใส่ปุ๋ยตาม
                       ค่าวิเคราะห์ดิน สูตร 46-0-0 มี ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินต่ าสุดเพราะไม่มีธาตุ

                       โพแทสเซียมเป็นองค์ประกอบในปุ๋ย และธาตุอาหารดังกล่าวสูญเสียไปจากดิน เนื่องจากพืชดูดธาตุนี้

                       ไปใช้ประโยชน์และติดไปกับผลผลิตที่เก็บเกี่ยว  (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา,  2544) ประกอบกับ
                       เป็นวิธีการทดลองที่ให้ผลผลิตสูง ดังนั้นพืชจึงมีการดูดใช้โพแทสเซียมในปริมาณมาก จึงท าให้ดินหลัง

                       การทดลองมีปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินต่ าสุด
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41