Page 20 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับการจัดการปุ๋ยเพื่อการปลูกพืชผักในจังหวัดลำพูน
P. 20
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
7
วิธีการปลูก
การปลูกคะน้านิยมปลูก 2 แบบ คือ
1) แบบหว่านกระจายทั่วแปลง เหมาะส าหรับแปลงปลูกขนาดใหญ่ ท าเป็นการค้า
2) แบบแถวเดียว เหมาะส าหรับแปลงปลูกขนาดเล็กหรือผักสวนครัว เตรียมดินโดยการใช้
แรงงานคนให้น้ าโดยใช้บัวรดน้ า
ระยะปลูก ควรให้มีระยะปลูกระหว่างต้นและระหว่างแถวประมาณ 20 X 20 เซนติเมตร
การเตรียมแปลงปลูก
1) ขุดดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร
2) ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน
3) น าปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วมาใส่ คลุกเคล้าให้เข้ากับดินเป็นการปรับปรุงสภาพ
ทางกายภาพและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
4) พรวนย่อยหน้าดินให้มีขนาดเล็ก โดยเฉพาะการปลูกแบบหว่านลงในแปลง เพื่อไม่ให้เมล็ด
ตกลงไปในดิน เพราะจะไม่งอกหรืองอกยากมาก
5) ถ้าดินเป็นกรดควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับปรุงดินให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม
ในการปลูกคะน้านิยมหว่านเมล็ดลงบนแปลงปลูกโดยตรงมากกว่าย้ายกล้า โดยมีขั้นตอนดังนี้
1) หว่านเมล็ดให้กระจายทั่วทั้งผิวแปลงโดยให้เมล็ดห่างกันประมาณ 2-3 เซนติเมตร
2) ใช้ดินผสมหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวดีแล้วหว่านกลบเมล็ดให้หนาประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร
เพื่อเก็บรักษาความชื้นและป้องกันเมล็ดถูกน้ ากระแทกกระจาย
3) คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบางๆ
4) รดน้ าให้ทั่วถึงและสม่ าเสมอ ต้นกล้าจะงอกภายใน 7 วัน
5) หลังจากต้นคะน้างอกแล้วประมาณ 20 วัน หรือต้นสูงประมาณ 10 เซนติเมตร ให้เริ่มถอน
แยก โดยเลือกต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก ทิ้งระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10 เซนติเมตร ต้นอ่อนของ
คะน้าที่ถอนแยกออกมาในวัยนี้เมื่อเด็ดรากออกแล้วส่งขายตลาดเป็นยอดผักได้
6) เมื่อคะน้ามีอายุประมาณ 30 วัน ให้ถอนแยกครั้งที่ 2 ให้เหลือระยะห่างระหว่างต้น 20
เซนติเมตร ต้นอ่อนของคะน้าที่ถอนแยกออกมาเมื่อเด็ดรากออก แล้วส่งขายตลาดเป็นยอดผักได้
7) ในการถอนแยกคะน้าแต่ละครั้งควรก าจัดวัชพืชไปด้วย
การให้น้ า
1) คะน้าต้องการน้ าอย่างเพียงพอและสม่ าเสมอ เนื่องจากมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นควรปลูกในแหล่งที่มีน้ าอย่างเพียงพอ
2) การให้น้ าให้ใช้ฝักบัวฝอยรดให้ทั่วและให้ชุ่ม ในเวลาเช้าและเย็น