Page 19 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับการจัดการปุ๋ยเพื่อการปลูกพืชผักในจังหวัดลำพูน
P. 19
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
6
3. ผักคะน้า
3.1 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของ
ผักคะน้า
คะน้า (Brassica oleracea var.alboglabla) เป็นพืชผักในตระกูล Cruciferae เป็นพืชฤดู
เดียว ล าต้นหนาสีเขียวเข้ม ใบเป็นรูปไข่สีเขียวเข้มเป็นมัน ก้านใบหนา ออกดอกเป็นช่อ ดอกมีสีขาว
ผลเป็นแบบผ่าแล่ง (silique) เมล็ดมีสีน้ าตาลถึงด า เมล็ดรูปร่างกลม (สุรชัย, 2535)
คะน้าเป็นผักที่สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ความเป็นกรดเป็น
ด่าง (pH) ของดินอยู่ระหว่าง 5.5-6.8 และมีความชื้นในดินสูงสม่ าเสมอ ต้องการแสงแดดเต็มที่
ผักคะน้าสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิสูงได้ดี และให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอในสภาพอุณหภูมิสูง
กว่า 25 องศาเซลเซียส ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากไม่จ าเป็นต้องผ่านการห่อหัวหรือออกดอกก่อนการเก็บ
เกี่ยวเหมือนกับผักตระกูลกะหล่ าชนิดอื่น ผักคะน้าเป็นผักที่นิยมใช้บริโภค เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูก
และหาซื้อมาบริโภคได้ตลอดปี อายุการเก็บเกี่ยวตั้งแต่หยอดเมล็ดจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 45-55 วัน
ต้นสูงประมาณ 35-50 เซนติเมตร และได้ผลผลิตประมาณ 950-2,000 กิโลกรัมต่อไร่ (www.doae.
go.th ; อ้างโดย สมศักดิ์, 2549)
พันธุ์ผักคะน้าที่นิยมปลูกมี 3 ประเภท คือ (www.doae.go.th ; อ้างโดย สมศักดิ์, 2549)
1) พันธุ์ใบกลม มีลักษณะใบกว้างใหญ่ ปล้องสั้นปลายใบมนและผิวใบเป็นคลื่นเล็กน้อย
ได้แก่พันธุ์ฝาง เบอร์ 1 เป็นต้น
2) พันธุ์ใบแหลม เป็นพันธุ์ที่มีลักษณะใบแคบกว่าพันธุ์ใบกลม ปลายใบแหลม ข้อห่าง ผิวใบ
เรียบ ได้แก่ พันธุ์ P.L.20 เป็นต้น
3) พันธุ์ยอดหรือก้าน มีลักษณะใบเหมือนกับผักคะน้าใบแหลม แต่จ านวนใบต่อต้นมีน้อย
กว่าปล้องยาวกว่า ได้แก่ พันธุ์แม่โจ้ 1 เป็นต้น
3.2 วิธีการปลูกและการดูแลรักษา
การเพาะกล้า
1) การเตรียมแปลงเพาะ แปลงเพาะกล้าควรมีขนาดกว้าง 1 เมตร ส่วนความยาวตามความ
เหมาะสม
2) การเตรียมดินบนแปลงเพาะกล้า ควรขุดไถพรวนดินอย่างดี ตากดินไว้ประมาณ 5-7 วัน
ย่อยหน้าดิน ให้ละเอียด แล้วใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากับดินให้ทั่ว
3) การเพาะ หว่านเมล็ดให้กระจายสม่ าเสมอทั่วแปลง กลบเมล็ดด้วยดินหรือปุ๋ยคอกที่
สลายตัวดีแล้วให้หนาประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งบางๆ รดน้ าให้ชุ่ม
4) การดูแลต้นกล้า ต้นกล้าจะงอกภายใน 7 วัน ควรดูแลต้นกล้า ถอนต้นที่อ่อนแอ ไม่
แข็งแรง หรือเบียดกันแน่นทิ้งไป ผสมสารละลายสตาร์ทเตอร์โวลูชั่นในน้ าแล้วน าไปรด เพื่อให้ต้นกล้า
แข็งแรงสมบูรณ์ ดูแลป้องกันโรคแมลงที่เกิดขึ้น เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 25-30 วัน จึงท าการย้าย
ไปปลูกในแปลงปลูกต่อไป