Page 14 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับการจัดการปุ๋ยเพื่อการปลูกพืชผักในจังหวัดลำพูน
P. 14
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
1
หลักการและเหตุผล
กรมพัฒนาที่ดินได้พัฒนาชุดตรวจสอบดินภาคสนาม (LDD soil test kit) ขึ้นมา เพื่อใช้แทน
ชุดตรวจดินภาคสนามที่ผลิตโดยองค์กรอื่น และกรมพัฒนาที่ดินได้น ามาใช้ในการปฏิบัติงานของหมอ
ดินอาสาทั่วประเทศมาเป็นเวลานาน ซึ่งการพัฒนา LDD soil test kit ขึ้นมาใช้เอง นอกจากจะเป็น
การแสดงถึงศักยภาพของกรมพัฒนาที่ดิน ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านการพัฒนา
ที่ดินโดยตรงแล้ว ยังเป็นการประหยัดงบประมาณได้อีกด้วย ดังนั้นหากว่าการวิเคราะห์ดินในแปลง
เกษตรกรด้วย LDD soil test kit ให้ผลการวิเคราะห์ที่สามารถน าไปใช้ได้ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่
เกษตรกรอย่างกว้างขวาง เพราะหากเกษตรกรสามารถใส่ปุ๋ยในการเพาะปลูกได้อย่างเหมาะสม และ
อัตราการใส่ปุ๋ยเป็นไปตามคุณภาพของดินแทนที่จะใช้ตามวิธีการที่เคยปฏิบัติ ซึ่งไม่ได้ค านึงถึงเรื่อง
คุณภาพของดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปริมาณธาตุอาหารหลักที่มีอยู่ในดิน ตลอดจนปริมาณความ
ต้องการธาตุอาหารหลักของพืชที่จะปลูก เกษตรกรไม่เพียงแต่จะสามารถลดต้นทุนการผลิตด้านปุ๋ย
แต่ยังเกิดผลดีในแง่ของการช่วยลดปัญหาเรื่องการเสื่อมโทรมของดินที่เกิดจากการใช้ปุ๋ยไม่ถูกต้อง ซึ่ง
ปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่ การที่ดินขาดสมดุลของธาตุอาหารพืช เพราะมีการสะสมของ P และ K ในดิน
ในระดับสูง และเป็นกรดเพิ่มขึ้นเพราะใช้ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป
อย่างไรก็ดี การส่งเสริมการใช้ LDD soil test kit ไปสู่ผู้ใช้ในวงกว้าง จ าเป็นต้องมีการ
ศึกษาวิจัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะการทดลองในภาคสนาม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สามารถยืนยันได้ว่า LDD
soil test kit สามารถใช้ตรวจสอบสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินขั้นพื้นฐานได้ โดยค่าวิเคราะห์ที่ได้
มีความเหมาะสม และน่าเชื่อถือในระดับที่เพียงพอส าหรับการใช้ประเมินความต้องการปุ๋ยของพืชที่
เกษตรกรจะปลูกได้ ดังนั้นการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมโดยการทดลองภาคสนาม จึงเป็นเรื่องที่จ าเป็นต้อง
มีการด าเนินการ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบเทียบความถูกต้องของค่าวิเคราะห์ดินที่ตรวจวัดโดยใช้ชุดตรวจดินภาคสนาม
ของกรมพัฒนาที่ดิน กับค่าวิเคราะห์ดินที่ได้จากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดิน
2. เพื่อก าหนดแนวทางในการจัดการดินโดยใช้ชุดตรวจดินภาคสนาม ของกรมพัฒนาที่ดิน
ส าหรับแนะน าการใส่ปุ๋ย N, P และ K ในพืชผัก
