Page 17 - บทบาทของหญ้าแฝกในการบำบัดสารปนเปื้อนในน้ำและสิ่งแวดล้อม
P. 17
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
12
2) การปลูกเพื่อลดระดับน้ าใต้ดิน เป็นการปลูกเพื่อป้องกันดินเค็มหรือลดความ
เป็นกรดเป็นด่าง โดยปลูกให้เต็มพื้นที่เช่นเดียวกับการปลูกเพื่อปรับปรุงบ ารุงดิน ปกติใช้ระยะปลูก
ประมาณ 50×50 ตารางเซนติเมตร จะช่วยลดระดับน้ าใต้ดินที่เค็มหรือลดระดับน้ าใต้ดินที่ไปละลาย
ธาตุที่ท าให้ดินเค็มและเป็นกรดเพิ่มขึ้น
3) การใช้ประโยชน์ในการบ าบัดน้ าเสียท าได้ 2 แบบ คือ แบบพื้นที่ชุ่มน้ า โดยปลูก
หญ้าแฝกระยะประมาณ 50×50 เซนติเมตร เมื่อหญ้าแฝกเจริญเติบโตมีอายุ 3-4 เดือน จึงปล่อยน้ า
เสียลงไปอย่าให้ล้นคันคู ให้มีน้ าท่วมขังสูง 10-15 เซนติเมตร เป็นเวลา 5-7 วัน จึงระบายน้ าออกและ
ไขน้ าเสียเข้ามาบ าบัดใหม่ ปฏิบัติอย่างนี้หมุนวนไปตลอดและควรตัดใบหญ้าแฝกทุก 1-2 เดือน น าใบ
ที่ตัดออกมาไปท าปุ๋ยหมัก พันธุ์หญ้าแฝกที่เจริญเติบโตในน้ าเสียได้ดี ได้แก่ หญ้าแฝกลุ่ม พันธุ์ใหม่
ห้วยหวาย ฟิจิ และอินโดนีเซีย น้ าเสียที่บ าบัดได้ดี ได้แก่ น้ าเสียจากชุมชนและน้ าเสียจากการเลี้ยง
ปศุสัตว์
นอกจากนี้ยังมีการบ าบัดน้ าเสียด้วยระบบราก โดยให้รากหญ้าแฝกแช่ลงในน้ า
โดยตรง วิธีนี้เหมาะส าหรับหญ้าแฝกที่มีรากยาว โดยปลูกหญ้าแฝกลงในแพท่อพีวีซีที่ท าเป็น
ทุ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าประมาณ 1×1.20 เมตร ด้านล่างกรุด้วยตะแกรงพลาสติกขนาดช่อง 1×1
เซนติเมตร หลังจากนั้นน าหญ้าแฝกที่ปลูกแบบรากเปลือยไปท าเป็นแพลอยน้ าที่จะบ าบัด โดยให้แถว
ของหญ้าแฝกในแพขวางทางน้ าไหล หลังจากนั้นตัดใบหญ้าแฝกทุกๆ 1 เดือน เพื่อเร่งการแตกกอและ
การเจริญเติบโต เมื่อหญ้าแฝกอายุ 10-12 เดือน หรือต้นเป็นก้านแข็งไม่สามารถตัดได้ควรเปลี่ยน
หญ้าแฝกใหม่ พันธุ์หญ้าแฝกลุ่มที่เหมาะสมส าหรับการบ าบัดโดยวิธีนี้ได้แก่ พันธุ์ใหม่ห้วยหวาย ฟิจิ
และสุราษฎร์ธานี (กรมพัฒนาที่ดิน, 2548)
1.6 กลไกการน าไอออนในดินมาสู่รากพืช
ปริมาณธาตุอาหารที่พืชดูดไปใช้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ประการ คือ ความเป็น
ประโยชน์ของธาตุนั้นในดิน การเคลื่อนย้ายของไอออนมาสู่ผิวราก และอัตราการดูดไอออนของรากพืช
ไอออนของดินมาสู่รากพืชได้ 3 วิธี ดังนี้ (ชยพร, 2559)
1.6.1 ไอออนไหลแบบกลุ่มก้อนตามกระแสน้ า (mass flow) ในขณะที่พืชก าลังด ารงชีพ
อยู่นั้นรากย่อมดูดน้ าจากดินมาใช้อยู่เสมอ โดยน้ าในดินถูกดูดเข้าสู่รากพืช เคลื่อนย้ายไปในรากและ
ล าต้น น้ าส่วนหนึ่งถูกน าไปใช้ในการเจริญเติบโต แต่ส่วนมากจะเป็นไอออกทางปากใบ ซึ่งเรียกว่า
การคายน้ า จากการที่พืชดูดน้ าทางรากและคายน้ าทางใบอย่างต่อเนื่องนี้ สารละลายของดินปริมาณ
มากเคลื่อนย้ายจากดินมาสู่ผิวราก ท าให้ไอออนต่างๆ ในสารละลายดินมากับกระแสน้ า หลังจากนั้น
รากพืชจะมีกลไกการดูดไอออน โดยการไหลมาพร้อมกับกระแสน้ า ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้น้ าของพืช
และความเข้มข้นของไอออนในสารละลายของดินจากการศึกษาพบว่าฟอสฟอรัสเข้าสู่รากข้าวโพด
โดยกระบวนการนี้ประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์