Page 191 - การกำหนดเขตการใช้ที่ดินสำหรับปลูกข้าวหอมมะลิของประเทศไทย
P. 191
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
4-3
ปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่งของโลกเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปีก่อให้เกิดรายได้
นําเข้าประเทศปีหนึ่งๆ เป็นเงินมูลค่าจํานวนมาก แต่การผลิตและการตลาดข้าวไทยยังประสบปัญหา
สําคัญ ดังนี้
1) อุปทานไม่สมดุลกับอุปสงค์ขาดการวางแผนการผลิตและการตลาดที่ดี
ในช่วงปี 2550-2552 ชาวนาทั้งประเทศจะปลูกข้าวเฉลี่ยปีละ 69 ล้านไร่ (นาปี 57 ล้านไร่
นาปรัง 12 ล้านไร่) ได้ผลผลิตเฉลี่ยปีละ 31 ล้านตันข้าวเปลือก (นาปี 23 ล้านตันข้าวเปลือก นาปรัง 8
ล้านตันข้าวเปลือก) แต่หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ปี 2553-2554)
และนโยบายรับจํานําข้าวเปลือก (ปี2555-2557)ชาวนาทั้งประเทศหันมาปลูกข้าวมากขึ้นเฉลี่ยปีละ 81
ล้านไร่ (นาปี 65ล้านไร่ และนาปรัง 16 ล้านไร่) ได้ผลผลิตเฉลี่ยปีละ 37 ล้านตันข้าวเปลือก (นาปี 27 ล้าน
ตันข้าวเปลือก นาปรัง 10ล้านตันข้าวเปลือก) ในขณะที่การส่งออกข้าวในช่วงเวลาดังกล่าวประเทศไทย
กลับส่งออกลดลงจากเดิม (ปริมาณการส่งออกจากปี 2551/52-ปี 2553/54 จํานวน 8.57-10.647 ล้านตัน
ข้าวสาร ปี 2554/55 ถึง 2556/57 จํานวน 6.95 6.72 และ9.5 ล้านตันข้าวสาร ตามลําดับ) จะเห็นว่าได้ว่า
ปริมาณผลผลิตข้าวสูงกว่าปริมาณส่งออกเป็นจํานวนมาก จึงทําให้อุปทานไม่สมดุลกับอุปสงค์
2) ประสิทธิภาพการผลิตข้าวตํ่าและต้นทุนการผลิตสูง
ผลผลิตข้าวเปลือกในฤดูนาปี ปี 2556/57 เฉลี่ยจํานวน 436 กิโลกรัมต่อไร่ ตํ่ากว่า
ประเทศผู้ผลิตข้าวที่สําคัญหลายประเทศ เนื่องจากพื้นที่การปลูกข้าวอาศัยนํ้าฝนมีถึงร้อยละ 78 แต่มี
พื้นที่อยู่ในเขตชลประทานเพียง 28 ล้านไร่ หรือร้อยละ 22 ดินเสื่อมโทรมมากขึ้น การใช้ที่ดินและจัดการ
ดินที่ไม่เหมาะสมกับสภาพของดิน และต้นทุนการผลิตข้าวสูงขึ้นทุกปี ทั้งค่าแรงงาน ค่าปุ๋ ยเคมี ค่า
สารเคมี และค่าเมล็ดพันธุ์เนื่องจากชาวนาใช้กรรมวิธีการผลิตที่ยังไม่ถูกต้องเหมาะสม ต้นทุนการผลิต
ข้าวของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553-2557 โดยในปี 2557/58 ต้นทุนการผลิตข้าวนาปีเพิ่มขึ้น
เป็น 10,831 บาท ต่อตัน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนสูง 3 อันดับแรก คือ ค่าปุ๋ ย ค่าเช่าที่ดิน และค่าแรงงาน
ในการเตรียมดิน ในขณะที่ต้นทุนการผลิตข้าวของคู่แข่งอื่นๆ เช่น เวียดนามและพม่า อยู่ที่ 5,615 บาทต่อ
ตัน และ 5,353 บาท ต่อตันตามลําดับ ขาดการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการให้มีประสิทธิภาพและ
สอดรับกันทั้งระบบ ตั้งแต่การขนส่งและจัดเก็บปัจจัยการผลิตการเก็บรักษาผลผลิต จนถึงการขนส่ง
ผลผลิตไปจําหน่ายให้ผู้รับซื้อข้าว จึงเป็นข้อจํากัดของข้าวไทยในการแข่งขันกับต่างประเทศในการ
ส่งออกข้าวไปยังตลาดโลก
3) การแปรรูปและผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ยังมีน้อย
การแปรรูปและผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมข้าว จําแนกได้ 2 กลุ่มคือ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์
อาหาร (Foods) เช่นอาหารหลัก อาหารว่าง อาหารหวาน เครื่องดื่ม เครื่องปรุง และ 2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่
ไม่ใช่อาหาร (Non-Foods) เช่น ส่วนผสมในอาหารสัตว์ เครื่องสําอาง ผ้า วัสดุ ถึงแม้ผลิตภัณฑ์จากข้าวจะมี