Page 30 - การศึกษาประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อการเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
P. 30

21





                       แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างในดินที่มีอินทรียวัตถุสูง หรือมีการเติมอินทรียวัตถุในดินซึ่งเกิดจาก
                       การย่อยสลายของอินทรียวัตถุนั้น แต่หลังจากนั้นค่าความเป็นกรดเป็นด่างจะเข้าใกล้กลาง การ
                       เปลี่ยนแปลงของค่าความเป็นกรดเป็นด่างจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับชนิดดิน ปริมาณอินทรียวัตถุ
                       ปริมาณจุลินทรีย์ อุณหภูมิ ค่าความเป็นกรดเป็นด่างเริ่มต้นของดิน และสมบัติทางเคมีของดิน (Yu,

                       1991; Snyder, 2002; Sahrawat, 2005)


                             8.00
                             7.00

                             6.00      ระยะตั้งตัว    ระยะแตกกอ    ระยะสร้างรวง  ระยะออกดอก   ระยะสุกแก่
                          ความเป็นกรดเป็นด่าง   4.00
                             5.00


                             3.00

                             2.00
                                       ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1   ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2
                             1.00
                             0.00
                                     0     7    14    24   34    44    54    64   74    84    94   104

                                                                  ระยะเวลา (วัน)

                                        ควบคุม                              จุลินทรีย์ พด.9 อัตรา 100 กก./ไร่

                                        จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 50 กก./ไร่   จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 100 กก./ไร่
                                        จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 150 กก./ไร่


                       ภาพที่ 3  การเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินหลังปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105

                         2.4 ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น
                       ประโยชน์ในดิน และค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน
                              2.4.1 ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตกับปริมาณฟอสฟอรัส
                       ที่เป็นประโยชน์ในดิน พบว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตกับ

                       ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินมีค่าปานกลาง คือ  0.6471  โดยมีระดับนัยสําคัญที่  0.01
                       (ตารางที่ 3) ซึ่งปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตมีผลในทางบวกต่อปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น
                       ประโยชน์ในดินระดับปานกลาง โดยปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อการ
                       เพิ่มปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน
                              2.4.2 ความสัมพันธ์ระหว่างค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินกับปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น

                       ประโยชน์ในดิน พบว่าค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เป็นบวกกับปริมาณ
                       ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน คือ 0.2914 แต่ไม่มีนัยสําคัญทางสถิติ (ตารางที่ 3) แสดงว่าเมื่อค่า
                       ความเป็นกรดเป็นด่างของดินเพิ่มขึ้น มีแนวโน้มว่าปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินจะเพิ่มขึ้น

                              2.4.3 ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตกับค่าความเป็นกรด
                       เป็นด่างของดิน พบว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตกับค่าความ
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35