Page 25 - การศึกษาประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อการเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
P. 25
16
ผลการทดลองและวิจารณ์
1. ผลวิเคราะห์สมบัติดินและปริมาณจุลินทรีย์ก่อนการทดลอง
1.1 สมบัติดินก่อนการทดลอง
จากการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีดินก่อนการทดลอง ได้แก่ ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของ
ดิน ปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมดในดิน ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และปริมาณโพแทสเซียม
ที่แลกเปลี่ยนได้ (ตารางที่ 1) พบว่า ดินมีสภาพเป็นกรดจัดมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง เท่ากับ 4.8
Havlin et al. (2005) กล่าวว่าที่ระดับความเป็นกรดเป็นด่างของดิน 4.5–5.5 ฟอสฟอรัสในดินส่วน
ใหญ่จะเกิดการตกตะกอนกับเหล็ก อะลูมินั่มออกไซด์ และไฮดรอกไซด์ ทําให้พืชไม่สามารถใช้
ประโยชน์ฟอสฟอรัสได้ ส่งผลให้พืชเกิดอาการขาดธาตุฟอสฟอรัส สําหรับปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมด
ในดิน เท่ากับ 14.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง (กรมพัฒนาที่ดิน, 2548
(ค)) แต่มีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่อพืชเพียง 3.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับ
ต่ํา ไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของข้าว โดยปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน
ที่เพียงพอสําหรับการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตข้าว คือ 5-10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (Palmer et al.,
1990) และปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 43.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ถือว่าอยู่ในระดับ
ต่ํา (กรมพัฒนาที่ดิน, 2558)
ตารางที่ 1 สมบัติทางเคมีดินก่อนการทดลอง
สมบัติทางเคมีของดิน ผลการวิเคราะห์ดิน
ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน (1:1) 4.8
ปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมดในดิน (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) 14.0
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) 3.0
ปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) 43.0
1.2 ปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตก่อนการทดลอง
จุลินทรีย์ที่ใช้ในการทดลองเป็นต้นตอเชื้อจุลินทรีย์บริสุทธิ์ที่เก็บรักษาไว้เพื่อผลิต
ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ พด. โดยนําต้นตอจุลินทรีย์ดังกล่าวมาเลี้ยงในอาหารเลี้ยงเชื้อชนิดเหลวพิโคฟสคา
ยา เพื่อเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง พบว่าจุลินทรีย์สําหรับผลิตจุลินทรีย์ พด.9
15
และจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 มีปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต เท่ากับ 5.1X10 และ 7.2X10 15
โคโลนีต่อมิลลิลิตร ตามลําดับ และเมื่อนํามาผลิตเป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์ พบว่าหัวเชื้อจุลินทรีย์ พด.9
9
9
และจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 มีปริมาณเชื้อ 1.5X10 และ 6.0X10 โคโลนีต่อกรัม ตามลําดับ ซึ่งมี
ปริมาณตามมาตรฐานพระราชบัญญัติปุย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 โดยกําหนดให้ในผลิตภัณฑ์
8
ปุยชีวภาพละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตในกลุ่มแบคทีเรีย มีปริมาณจุลินทรีย์รับรองไม่น้อยกว่า 1.0X10
โคโลนีต่อกรัม (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 2552) สําหรับการขยายเชื้อเพื่อเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์
ก่อนนําไปทดลอง พบว่าการขยายเชื้อเพื่อทดลองในโรงเรือนทดลองจุลินทรีย์ พด.9 และจุลินทรีย์
11
11
ซุปเปอร์ พด.9 มีปริมาณเท่ากับ 2.1X10 และ 3.5X10 โคโลนีต่อกรัม ขณะที่การขยายเชื้อเพื่อ

