Page 26 - การศึกษาประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อการเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
P. 26
17
ทดลองในแปลงทดลอง พบว่าจุลินทรีย์ พด.9 และจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ปริมาณเชื้อเท่ากับ
10
10
3.2X10 และ 1.9X10 โคโลนีต่อกรัม (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 ปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตในจุลินทรีย์ พด.9 และจุลินทรีย์ซุปเปอร์
พด.9 ก่อนการทดลอง
ปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟต
จุลินทรีย์ (โคโลนี/มิลลิลิตร) (โคโลนี/กรัม)
ต้นตอเชื้อ หัวเชื้อแห้ง ขยายเชื้อในปุ๋ยหมัก
โรงเรือนทดลอง
15
11
9
จุลินทรีย์ พด.9 5.1 X 10 1.5 X 10 2.1 X 10
9
11
15
จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 7.2 X 10 6.0 X 10 3.5 X 10
แปลงทดลอง
9
10
15
จุลินทรีย์ พด.9 5.1 X 10 1.5 X 10 3.2 X 10
15
9
10
จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 7.2 X 10 6.0 X 10 1.9 X 10
2. ผลการทดลองที่ 1 ประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อความเป็นประโยชน์ของ
ฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดในโรงเรือนทดลอง
2.1 การเปลี่ยนแปลงปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตในดินหลังการปลูกข้าว
ผลการวิเคราะห์ปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตในดิน 12 ช่วงเวลา หลังการปลูก
ข้าวในกระถาง (ภาพที่ 1) ที่ 0 วันหลังปักดํา พบว่าปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตเริ่มต้นอยู่
5
3
ระหว่าง 2.77 x 10 - 1.83 x 10 โคโลนีต่อกรัมดิน โดยตํารับที่ใส่ทั้งจุลินทรีย์ พด.9 และ ซุปเปอร์ พด.
9 มีปริมาณเชื้อจุลินทรีย์มากกว่าตํารับควบคุม ตํารับที่ใส่จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 150 กิโลกรัม
5
ต่อไร่ มีปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตสูงสุด คือ 1.83 x 10 โคโลนีต่อกรัมดิน รองลงมา คือ
ตํารับที่ใส่จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ และตํารับที่ใส่จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9
5
4
อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ คือ 1.53 x 10 และ 9.90 x 10 โคโลนีต่อกรัมดิน ตามลําดับ ขณะที่ตํารับที่ใส่
จุลินทรีย์ พด.9 อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ และตํารับควบคุมที่ไม่ใส่จุลินทรีย์ มีปริมาณจุลินทรีย์ละลาย
3
4
อนินทรีย์ฟอสเฟตต่ําสุด คือ 4.97 x 10 และ 2.77 x 10 โคโลนีต่อกรัมดิน ตามลําดับ หลังจากนั้น
ปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตในตํารับที่ใส่จุลินทรีย์จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีปริมาณ
สูงสุดที่ระยะเวลา 7 วัน หลังปักดํา โดยตํารับที่ใส่จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 100 และ 150 กิโลกรัม
5
5
ต่อไร่ มีปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตสูงสุด คือ 2.07 x 10 และ 2.20 x 10 โคโลนีต่อกรัม
3
ดิน ตามลําดับ ขณะที่ตํารับควบคุมที่ไม่ใส่จุลินทรีย์ มีปริมาณจุลินทรีย์ต่ําที่สุด คือ 4.37 x 10 โคโลนีต่อ
กรัมดิน แต่จะสังเกตว่าตํารับที่ใส่จุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ มีปริมาณจุลินทรีย์
ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตใกล้เคียงกับตํารับที่ใส่จุลินทรีย์ พด.9 อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ จากผลการ
ทดลองแสดงว่าการใส่เชื้อจุลินทรีย์ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ มีผลให้ปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตใน
ดินเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับ Stephen et al. (2015) พบว่าการใส่แบคทีเรียละลายอนินทรีย์ฟอสเฟต
Gluconacetobacter sp. ร่วมกับ Burkholderia sp. ในดินกรดจัด ที่มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง 5.0
สามารถเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตในดินได้สูงกว่าการไม่ใส่จุลินทรีย์ คือ 8.17 x 10 6
5
และ 6.33 x 10 โคโลนีต่อกรัมดิน ตามลําดับ

