Page 29 - การศึกษาประสิทธิภาพจุลินทรีย์ซุปเปอร์ พด.9 ต่อการเพิ่มความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัสและผลผลิตข้าวในดินกรดจัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
P. 29

20





                           ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (มก./กก.)   10.00
                            12.00
                                         ระยะตั้งตัว
                                                       ระยะแตกกอ
                                                                     ระยะสร้างรวง
                                                                                 ระยะออกดอก
                                                                                              ระยะสุกแก่
                             8.00

                             6.00

                             4.00


                             2.00

                             0.00    ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1   ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2
                                   0     7     14   24    34    44   54    64    74    84   94    104
                                                              ระยะเวลา (วัน)
                                         ควบคุม                          พด.9 อัตรา 100 กก./ไร่

                                         ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 50 กก./ไร่   ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 100 กก./ไร่
                                         ซุปเปอร์ พด.9 อัตรา 150 กก./ไร่

                       ภาพที่ 2  ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินหลังปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105

                         2.3 การเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินหลังการปลูกข้าว

                                   ผลการวิเคราะห์ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินในช่วงการปลูกข้าว (ภาพที่ 3) พบว่าที่
                       0-7 วันหลังปักดํา ทุกตํารับทดลองมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินอยู่ในช่วง 5.61-5.85 ซึ่งมีสภาพ
                       เป็นกรดปานกลาง ในช่วงดังกล่าวพบว่าปริมาณจุลินทรีย์ละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตในทุกตํารับการ
                       ทดลองที่มีการใส่จุลินทรีย์จะมีปริมาณเชื้อจุลินทรีย์สูงขึ้นอย่างชัดเจน จากรายงานผลการวิจัยหลาย
                       ฉบับระบุว่ากลไกการละลายอนินทรีย์ฟอสเฟตของจุลินทรีย์เกิดจากกระบวนการผลิตกรดอินทรีย์ของ

                       จุลินทรีย์ เช่น กรดกลูโคนิค (gluconic)  กรดไกลโคลิก (glycolic  acid)  กรดฟูมาริค (fumaric)
                       กรดซัคซินิค (succinic)  กรดอะซีติค (acetic)  กรดออกซาลิค (oxalic)  กรดฟอร์มิก (formic  acid)

                       กรดลูตามิก (glutamic  acid)  กรดไกลออกซาลิก (glyoxalic  acid)  กรดแอลฟา-คีโตบิวทิริก (α-
                       ketobutyric acid) กรดแลกติก (lactic acid) กรดมาลิอิก (maleic acid) กรดมาลิก (Malic acid)
                       กรดทาร์ทาริก (tartaric acid) และกรดซิตริค (citric) เป็นต้น (อาภารัตน์, 2549; Rodriguez and
                       Fraga, 1999; Panhwar et al., 2011; Surapat et al., 2013; Rashid et al., 2004) ซึ่งกรด
                       เหล่านี้มีผลทําให้ดินมีสภาพเป็นกรดในช่วง 1 สัปดาห์แรกของการขังน้ํา และพบว่าปริมาณฟอสฟอรัส

                       ที่เป็นประโยชน์ในช่วงดังกล่าวมีปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน (ภาพที่ 2 และ 3) หลังจากนั้นที่
                       14 วันหลังปักดํา ทุกตํารับทดลองมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย และค่อนข้างคงที่อยู่
                       ในช่วง 6.83-7.30 ซึ่งมีแนวโน้มเข้าใกล้ค่าความเป็นกลาง โดยพัชรี (2541) กล่าวว่าเมื่อมีการขังน้ําใน

                       ดินนาประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะทําให้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินมีแนวโน้มเข้าใกล้ค่าความเป็น
                       กลางและจะค่อนข้างคงที่ สอดคล้องกับ วิภาวรรณ (2558) กล่าวว่าดินกรดที่มีค่าความเป็นกรดเป็น
                       ด่างเท่ากับ 4.5-5.0 เมื่อมีการขังน้ําค่าความเป็นกรดเป็นด่างจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.0-7.0 ภายใน 2 สัปดาห์
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34