Page 87 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 87
82
สามารถซึมผานดินไปไดโดยงาย รวมทั้งการสรางสิ่งกีดขวางการไหลของน้ํา ซึ่งอาจใชวิธีการปลูกพืช หรือ
ใชวิธีกลก็ได
9.5.4. การทําทางระบายน้ํา (Waterway) การทําขั้นบันได (Terracing) เพียงอยางเดียว อาจไมเปนการ
เพียงพอเนื่องจากอาจมีน้ําสวนเกิน ซึ่งจะซึมลงไปในดินไมหมด น้ําสวนเกินนี้จะตองไดรับการระบายอยาง
ถูกวิธี โดยการทําทางระบายน้ําซึ่งมีหญาขึ้นหนาแนน เพื่อเบนน้ําไปสูพื้นลางหรือแหลงเก็บน้ําบริเวณ
ใกลเคียง
นอกจากหลักการที่สําคัญทั้ง 4 ประการในการอนุรักษดินและน้ําแลว มาตรการที่จะนําใชเพื่อ
กอใหเกิดประสิทธิผลในการอนุรักษดินและน้ํา สามารถแบงไดเปน 2 มาตรการใหญๆ คือ
(1) มาตรการวิธีพืช (Vegetative measure) เปนมาตรการที่คํานึงถึงหลักการในลักษณะเปนตัว
สกัดกั้นพลังน้ําฝนและอัตราการชะลาง ที่มีอิทธิพลตอการกัดชะหนาดินโดยตรง ซึ่งพืชพรรณในที่นี้
นอกเหนือจากพืชเศรษฐกิจแลว ยังมีพืชตระกูลหญา ตระกูลถั่ว ไมพุม หรือไมปาดวย มาตรการทางพืช มี
หลายวิธีดังตอไปนี้ เชน
(1.1) การปลูกพืชใหเหมาะสมตามชั้นสมรรถนะดิน
(1.2) การปลูกพืชเปนแถบตามแนวระดับ
(1.3) การใชวัสดุคลุมดิน การปลูกพืชคลุมดิน
(1.4) การปลูกพืชหมุนเวียน
(1.5) การปลูกพืชเปนแถบสลับ
(1.6.) การใชระบบการปลูกพืชวิธีตางๆ นอกเหนือจากที่กลาวมานี้ เชน การปลูกพืช
เหลื่อมฤดู เปนตน
(2) มาตรการวิธีกล (Mechanical measure) โดยหลักการนั้น มาตรการทางกลหรือทางวิศวกรรมนั้น
เปนวิธีการที่สําคัญอันหนึ่งในการจัดการที่ดิน ซึ่งสวนใหญจะเปนสิ่งกอสราง ทั้งถาวรและชั่วคราว เพื่อเปน
ตัวขวาง และเบนน้ําไหลบาที่ไหลในพื้นที่การเกษตรไปสูแหลงกักเก็บ เพื่อลดอัตราการชะลางพังทลาย
สําหรับมาตรการวิธีกลนั้น นอกจากจะชวยปองกันการชะลางพังทลายของดินแลว ยังสามารถชวยกักเก็บน้ํา
และปรับปรุงสมรรถนะการซึมของน้ําไดดวย การใชวิธีนี้มีอยูหลายวิธี ซึ่งพอสรุปไดดังนี้ เชน
(2.1) การไถพรวน ตามแนวระดับ (Contouring plough)
(2.2) คันดิน (Bund on terrace)
(2.3) ขั้นบันไดดิน (Bench terracing)
(2.4) คูรับน้ํารอบเขา (Hillside ditch)
(2.5) ทางระบายน้ํา (Waterway)
(2.6) ฝายกักเก็บน้ํา (Weir)
มาตรการวิธีกลยังมีอีกมากมาย ขึ้นอยูกับการนําไปประยุกตใชในแตละทองถิ่น ซึ่งแตกตางกันไป
รวมทั้งงบประมาณดวย เพราะเปนวิธีที่คอนขางจะลงทุนสูง