Page 149 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 149
144
(4) การใสวัสดุปูนทางการเกษตร ลดความเปนกรดของดินโดยใสวัสดุปูนตามความรุนแรงของ
ความเปนกรดของดิน เชนเดียวกับการจัดการดินเปรี้ยวจัด
(5) การใสปุย ดินอินทรีย เมื่อแหงจะเปนกรดจัดมาก เกิดความไมสมดุลของธาตุอาหาร และขาด
ธาตุอาหาร เชน ขาดธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี ทองแดง โบรอนและแมงกานีส เกิด
ความเปนพิษของเหล็กและอะลูมิเนียม เปนตน จึงควรใหปุยที่มีธาตุอาหารดังกลาวรวมกับการใชวัสดุปูน
12.4. ดินเค็ม
ดินเค็ม หมายถึง ดินที่มีปริมาณเกลือที่ละลายอยูในสารละลายดินมากเกินไป จนมีผลกระทบตอ
การเจริญเติบโตและการใหผลผลิตของพืช ทั้งนี้เนื่องจากทําใหพืชเกิดอาการขาดน้ํา และมีการสะสมไออนที่
เปนพิษในพืชมากเกินไป นอกจากนี้ยังทําใหเกิดความไมสมดุลของธาตุอาหารพืช
การวัดคาความเค็มของดิน มักใชการนําไฟฟาของดิน มีหนวยเปนเดซิซีเมนสตอเมตร (dS/m) โดย
เปนคาการนําไฟฟาของดินที่สกัดไดจากดินขณะที่อิ่มตัวดวยน้ําที่ 25 องศาเซลเซียส มาใชประเมินปริมาณ
เกลือและอิทธิพลของเกลือในดินตอการเจริญเติบโตและการใหผลผลิตของพืช ซึ่งสามารถแบงระดับความ
เค็มของดินไดดังนี้
12.4.1. ดินไมเค็ม มีคาการนําไฟฟา 0-2 เดซิซีเมนสตอเมตร (dS/m) ไมมีผลกระทบตอการปลูก
12.4.2. ดินเค็มนอย มีคาการนําไฟฟา 2-4 เดซิซีเมนสตอเมตร (dS/m) พืชบางชนิดที่มีความไวตอ
ระดับความเค็ม อาจมีผลผลิตลดลง
12.4.3. ดินเค็มปานกลาง มีคาการนําไฟฟา 4-8 เดซิซีเมนสตอเมตร (dS/m) พืชสวนใหญใหผลผลิต
ลดลง
12.4.4. ดินเค็มมาก มีคาการนําไฟฟา 8-16 เดซิซีเมนสตอเมตร (dS/m) พืชที่ทนตอระดับความเค็ม
เทานั้นที่ยังคงใหผลผลิตตามปกติ
12.4.5. ดินเค็มจัด มีคาการนําไฟฟามากกวา 16 เดซิซีเมนสตอเมตร (dS/m) พืชที่ทนตอระดับความ
เค็มบางชนิดเทานั้นที่ยังคงใหผลผลิตตามปกติ
ประเทศไทย มีพื้นที่ดินที่ไดรับผลกระทบจากความเค็ม 14,393,467 ไร แบงตามสภาพพื้นที่หรือ
แหลงที่มาของเกลือ ไดดังนี้
(1) ดินเค็มชายทะเล ดินเค็มชายทะเลเปนดินที่เกิดจากอิทธิพลของน้ําทะเลทวมถึงในปจจุบันหรือ
เคยทวมถึงมากอน ปจจุบันยังมีเกลือที่ละลายน้ําไดอยูมาก พบมากบริเวณชายฝงทะเลทั้งสองดานของภาคใต
ภาคกลาง และภาคตะวันออก พืชพรรณที่ขึ้นในบริเวณนี้เปนไมชายเลน ซึ่งทนเค็มไดดี เชน โกงกาง แสม
ลําพู เปนตน สําหรับพื้นที่ดินเค็มชายทะเลโดยอาศัยจากขอมูลการจําแนกดินดวยกลุมชุดดินพบวามีพื้นที่
2,660,983 ไร