Page 137 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน
P. 137

132

                  ดินเปนกอนดินเล็กละเอียดซึ่งเรียกวา Soil  mulch  จะชวยลดการระเหยน้ําจากดิน แตในที่นี้จะกลาวถึง

                  รายละเอียดการคลุมดินดวยเศษเหลือของพืช อินทรียวัตถุและมูลสัตวตางๆ ซึ่งสามารถจะปฏิบัติไดในไรนา
                  ทั่วๆ ไป และเปนการปฏิบัติที่ลงทุนนอยที่สุด และเกษตรกรสามารถปฏิบัติไดเอง

                  ความสําคัญของการคลุมดินที่มีตอการอนุรักษดินและน้ํา

                           (1) เพื่อปกคลุมผิวดิน ชวยลดแรงกระแทกของเม็ดฝนที่จะกระทบดินโดยตรง ซึ่งจะชวยปองกัน

                  การชะลางพังทลายของดินที่เกิดจากฝน น้ําที่ไหลบา หรือที่เกิดจากลม ในกรณีที่มีน้ําไหลบาบนผิวดินมาก
                  เชน บนทางน้ําไหลที่เพิ่งปลูกหญาหรือบนพื้นที่ที่มีความลาดเทมาก จําเปนตองตรึงเศษเหลือของพืชใหอยู

                  กับที่โดยใชเชือกสานเปนตาขาย แลวผูกตรึงทับเศษเหลือของพืชบนผิวดินอีกที เรียกการคลุมดินวิธีนี้วา

                  Mulch net และเรียกวัตถุคลุมดินนั้นวา Erosion net
                          (2) เพื่อเปนการอนุรักษน้ําในดิน เพราะวาการคลุมดินนั้นเปนการลดการระเหยของน้ําจากดิน

                  โดยตรง ปองกันมิใหแสงแดดสองถึงพื้นดิน จากการศึกษาพบวาการคลุมดินจะลดการระเหยของน้ําจากดิน

                  ได  10-50 เปอรเซ็นตหรือมากกวา นอกจากนี้การคลุมดินดวยเศษพืชยังเปนการเพิ่มความสามารถในการซึม

                  น้ําของดิน ซึ่งทําใหปริมาณน้ําที่ไหลบาบนผิวดินลดลงและเพิ่มการกักเก็บน้ําบนผิวดิน
                           (3) ในประเทศที่มีอากาศหนาวหรืออบอุน การคลุมดินดวยวัสดุตางๆ เชนอินทรียวัตถุหรือ

                  พลาสติกสีดํา จะเปนการเพิ่มอุณหภูมิของดินหรือรักษาอุณหภูมิของดินไมใหลดต่ําลงมากจนเปนอันตรายตอ

                  รากพืชวัตถุคลุมดินที่ชวยลดอุณหภูมิของดินไดแก อินทรียวัตถุ วัตถุคลุมดินที่มีสีออน และวัตถุที่สะทอน
                  แสง สําหรับวัตถุคลุมดินที่ชวยเพิ่มอุณหภูมิของดินไดแก วัตถุคลุมดินที่มีสีดํา เทา และโปรงแสง

                          (4) เพื่อการควบคุมและลดการเจริญเติบโตของวัชพืช ซึ่งเปนการลดการแขงขันของการแยงน้ํา ธาตุ

                  อาหารและแสงสวาง ระหวางพืชที่ปลูกและวัชพืช
                          (5) เพื่อเปนการรักษาโครงสรางของดินและปองกันการจับตัวเปนแผนแข็งของดิน (Soil crust) และ

                  ดินแนน (Compaction) เพราะการคลุมดินจะเปนการสกัดกั้นไมใหเม็ดฝนตกลงมาปะทะกับผิวดินโดยตรงทํา

                  ใหกอนดินไมถูกทําลาย จึงทําใหดินมีสภาพทางกายภาพเหมาะแกการเจริญเติบโตของพืช
                         (6) วัตถุคลุมดินที่เปนเศษพืช มูลสัตวตางๆจะผุพังเนาเปอยและสลายตัวเพิ่มอินทรียวัตถุและแรธาตุ

                  แกดิน ซึ่งเปนประโยชนกับพืชที่ปลูก

                           (7) การคลุมดินนี้ นิยมปฏิบัติบนพื้นที่ที่ไมสามารถทําการไถพรวนไดหรือไมสามารถจะทํา

                  ขั้นบันไดดินได เนื่องจากความลาดเทไมสม่ําเสมอ พื้นที่บริเวณแคบๆหรือชันมากหรือเปนพื้นที่ที่ไดรับการ
                  รบกวนจากการกอสรางตางๆ เชน ไหลถนน ฝงคลอง ฝงคูและคลองชลประทานเปนตน ที่ไมสามารถปลูก

                  พืชคลุมดินได หรือใชวิธีการอนุรักษดินอยางอื่นมาปฏิบัติได การคลุมดินจะเปนวิธีการเดียวที่จะชวยปองกัน

                  การชะลางพังทลายของดินในพื้นที่ดังกลาวได และใชเวลาในการปฏิบัติสั้นที่สุด

                           (8) การคลุมดินชวยทําใหดินมีสภาพความชื้น และอุณหภูมิสม่ําเสมอ ทําใหจุลินทรียที่อาศัยอยูที่
                  ผิวดินมีกิจกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทําใหดินมีสภาพที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช
   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142