Page 128 - หลักการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในเขตพัฒนาที่ดิน

123

ในขณะที่ความชื้นของดินยังดีอยู การปลูกในประการหลังมักเปนการปลูกแลวปลอยทิ้งใหคลุมดินขามฤดู

แลง ชนิดพืชที่ปลูกควรเปนพืชที่ทนแลงไดดี เมื่อเริ่มฤดูฝนจึงไถกลบลงดิน ซึ่งเหมาะสําหรับใชกับนาขาว
ตามปกติการปลูกพืชปุยสดมักกระทํากอนการปลูกพืชหลักประมาณ 3 เดือน ฉะนั้นการเลือกใชชนิดของพืช

ปุยสดจึงควรใหสัมพันธกับเวลา

(3) วิธีการปลูก ในการปลูกพืชทุกครั้งโดยเฉพาะการปลูกแบบโรยเมล็ดเปนแถวและปลูกแบบ
หยอดเปนหลุม จําเปนตองมีการเตรียมดินกอนการปลูกทุกครั้ง โดนการไถ-พรวนดินและยอยดินใหละเอียด

พรอมทั้งเก็บเศษวัชพืชออกจากแปลงใหหมด เชนเดียวกับการเตรียมดินปลูกพืชทั่วๆ ไป

เมล็ดพันธุพืชตระกูลถั่วที่เหมาะสมและแนะนําใหใชปลูกเพื่อไถกลบเปนปุยพืชสดในพื้นที่ 1 ไร

มีอัตราเมล็ด และอายุการออกดอก ตามตารางที่ 10
การใชประโยชนพืชปุยสด พื้นที่ปลูกทั่วๆ ไปสามารถนําเอาพืชปุยสดไปจัดปลูกเพื่อใชประโยชน

เปนปุยพืชสดบํารุงความอุดมสมบูรณของดินในลักษณะตางๆ กันดังนี้

(1) การปลูกเปนพืชหมุนเวียน โดยการปลูกพืชปุยสดลงในพื้นที่กอนหรือหลังการปลูกพืชหลัก

พื้นที่ปลูกมีขนาดเปนผืนคอนขางใหญหรือใหญมาก เมื่อการเจริญเติบโตอยูในระยะพอเหมาะที่จะสับกลบ
ได จึงทําการตัดสับและไถกลบลงในพื้นที่นั้น การใชพืชปุยสดปลูกในลักษณะนี้ มักจะใชกับบริเวณพื้นที่ที่มี

ความอุดมสมบูรณต่ํา และอยูในเขตการเกษตรอาศัยน้ําฝน

(2) การปลูกเปนพืชแซม คือ การปลูกโดยใชพืชปุยสด แซมลงในระหวางแถวพืชหลัก เปนการ
ปลูกไปพรอมๆ กันในเวลาเดียวกัน หรือปลูกเหลื่อมเวลาในพื้นที่เดียวกันแตละป สวนมากมักจะปลูกพืชปุย

สดภายหลังพืชหลัก เจริญเติบโตเกือบเต็มที่แลว ซึ่งใชหลักเกณฑที่วา พืชปุยสดจะตองไมขึ้นแขงขันแยงธาตุ

อาหารและน้ําจากพืชหลัก และไมเปนอุปสรรคตอการเจริญเติบโต และผลผลิตซึ่งกันและกัน เมื่อพืชปุยสด
เริ่มออกดอกหรือมีอายุประมาณ 50 – 60 วัน จึงตัดสับและไถกลบลงดินในระหวางแถวพืชหลักนั่นเอง