Page 31 - การประเมินผลสัมฤทธิ์กิจกรรมด้านการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำของกรมพัฒนาที่ดิน ประจำปีงบประมาณ 2566
P. 31
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
มาตรการอนุรักษ์วิธีกล วิธีปฏิบัติ การใช้งาน
5) คันดิน (terrace) สร้างคันดินและร่องน ้าขวาง - เพื่อกักเก็บน ้าไหลบ่าในแต่ละช่วง หรือ
- คันดินฐานกว้าง ความลาดเทของพื นที่ เบนน ้าไหลบ่าออกจากพื นที่
- คันดินฐานแคบ - เหมาะกับพื นที่ที่มีความลาดเท 2-12
ซึ่งมีทั งแบบระดับและลด เปอร์เซ็นต์
ระดับ - คันดินลดระดับ ความยาวไม่ควรเกิน
300-600 เมตร หากความยาวเกินกว่า
ที่ก้าหนดให้จัดท้าทางระบายน ้า
เป็นระยะเพื่อลดความยาวของคันดิน
ให้อยู่ภายในพิกัด
6) คันดินเบนน ้า (diversion สร้างคันดินขนาดใหญ่ขวางทาง - เพื่อกักเก็บน ้าไหลบ่าและเบนน ้าออก
terrace) ลาดเทของพื นที่ จากพื นที่ด้านบนไปยังทางระบายน ้า
- เหมาะกับพื นที่ที่มีความลาดชัน 2-12
เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณฝนน้อย
7) คูรับน ้าขอบเขา (hillside สร้างคันคูรับน ้าขอบเขาตาม - เพื่อท้าคูรับน ้าจากพื นที่ลาดเทตอนบน
ditches) แนวระดับหรือลดระดับเป็นรูป เหมาะกับพื นที่ที่มีความลาดเทน้อยกว่า
สี่เหลี่ยมหรือรูปสามเหลี่ยม 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าใช้ร่วมกับขั นบันไดดิน
ระยะห่างคันคูขึ นกับสภาพ แบบลาดเอียงออกหรือแถบหญ้าก็ใช้กับ
ภูมิประเทศและสิ่งแวดล้อม พื นที่ลาดเทมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์
โดยตัดพื นที่ลาดเทออก แล้วน้า
ดินไปถมพื นที่ตอนล่าง
8) ขั นบันไดดิน (bench ปรับพื นที่เป็นขั นๆ ต่อเนื่องกัน - ขั นบันไดดินแบบระดับเหมาะกับพื นที่
terrace) คล้ายขั นบันได ที่มีฝนตกปานกลางคันดินกว้าง 4 เมตร
(1) ขั นบันไดดินแบบระดับ เหมาะกับดินที่ซึมน ้าเร็ว ส่วนคันดิน
(level type) ลดระดับใช้กับดินที่ซึมน ้าช้ากว่า
(2) ขั นบันไดดินแบบเอียง โดยลดระดับ 0.1-0.6 เปอร์เซ็นต์
เข้า backward or inward - ผิวหน้าฐานขั นบันไดดินจะเอียงเข้าหา
bench terrace) ขั นบันไดดิน เชิงลาดเล็กน้อยเพื่อให้น ้าไหลมารวมกัน
แบบลาดเอียงออก (forward ที่ผนังด้านในดินลึกปานกลาง (0.5-1.0
or outward bench เมตร) และมีอัตราการซาบซึมน ้า
terrace) ปานกลางถึงต่้า เหมาะกับพื นที่ฝนตกชุก
มากกว่า 650 มิลลิเมตรต่อปี (38.1
มิลลิเมตรต่อชั่วโมง)
- ผิวหน้าฐานขั นบันไดเอียงออกจากเชิง
ลาดเล็กน้อยเพื่อให้น ้าส่วนเกินระบาย
ออก ควรใช้กับพื นที่ลาดชันปานกลาง
ดินลึก ถึงลึกมาก (1.0-1.5 ถึงมากกว่า
1.5 เมตร) เหมาะกับบริเวณที่ฝนตกน้อย
กว่า 650 มิลลิเมตรต่อปี หรือ 6.35-
38.1 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง