Page 28 - คู่มือการจัดทำเป้าหมายตัวชี้วัดความสมดุลของการจัดการทรัพยากรที่ดิน (Land Degradation Neutrality: LDN) ระดับพื้นที่
P. 28
22
3.2.3 ตัวชี้วัดกำรกักเก็บคำร์บอนอินทรีย์ในดิน (Soil Organic Carbon Stock: SOC Stock)
1) ตรวจสอบเอกสาร และรวบรวมข้อมูลแผนที่ในอดีต ได้แก่ รายงานผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ
อินทรียวัตถุในดิน จุดเก็บตัวอย่างดินพร้อมผลการวิเคราะห์สมบัติของดิน (โครงการ 1 ตัวอย่างดิน 1 หมู่บ้าน
ปี พ.ศ. 2552) แผนที่ชุดดิน แผนที่อินทรียวัตถุในดิน และแผนที่ขอบเขตพื้นที่ศึกษา เป็นต้น
2) ก าหนดจุดเก็บตัวอย่างดิน โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากแผนที่ชุดดิน และแผนที่การใช้ประโยชน์
ที่ดิน จ านวนตัวอย่างดิน ประมาณ 1 จุด ต่อพื้นที่ 20,000 ไร่ หรือ 30 ตารางกิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิ
ประเทศและขนาดพื้นที่ของแต่ละจังหวัด)
3) วางแผนส ารวจ และจัดเก็บตัวอย่างดิน ในปีปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2565) กระจายตามประเภทดิน
(วัตถุต้นก าเนินดิน เนื้อดิน และการระบายน้ าของดิน) ประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน (ป่าไม้ ทุ่งหญ้า
และเกษตรกรรม) ที่ระดับความลึก 0-15 เซนติเมตร และ 15-30 เซนติเมตร ครอบคลุมทั้งพื้นที่ศึกษา โดยเก็บ
ตัวอย่างดินใน 2 รูปแบบ คือ
(1) ตัวอย่างดินแบบทั่วไป ด้วยการรบกวนโครงสร้างดิน (disturbed soil sampling)
ส าหรับการวิเคราะห์ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (organic matter content: OM) โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์
(potassium: K) ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (phosphorus: P) ปฏิกิริยาดิน (pH) หรือ ความเป็นกรดเป็นด่าง
และค่าการน าไฟฟ้า (electrical conductivity: EC)
(2) ตัวอย่างดินแบบไม่รบกวนโครงสร้างของดิน (undisturbed soil sampling) โดยเก็บตัวอย่างดินด้วย
กระบอกเก็บดิน (soil core) ส าหรับการวิเคราะห์ความหนาแน่นดิน (bulk density) และความชื้นดิน (water content)
4) ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพิกัด ผลการวิเคราะห์ดิน และความสอดคล้องกับสมบัติของ
ดินตามสมบัติพื้นฐานของชุดดิน
5) จัดท าฐานข้อมูลดินในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงปี พ.ศ. 2552
และ 2565 โดยการเชื่อมโยงข้อมูลสมบัติที่ได้จากการวิเคราะห์ กับจุดเก็บตัวอย่างดิน เพื่อน าไปจัดท าแผนที่
ปริมาณการกักเก็บคาร์บอนอินทรีย์ในดิน
6) วิเคราะห์ปริมาณการกักเก็บคาร์บอนอินทรีย์ในดิน (ตันคาร์บอนต่อไร่) ในแต่ละจุดเก็บตัวอย่างดิน
และประมาณค่าเชิงพื้นที่ด้วยวิธีทางสถิติ (geo-statistics) ด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ โดยการประเมินใน
ครั้งนี้เลือกใช้วิธีการถ่วงน้ าหนักตามระยะทางผกผัน (inverse distance weighing: IDW)
7) ปรับปรุงแผนที่การกักเก็บคาร์บอนอินทรีย์ในดิน ในส่วนของพื้นที่ป่าไม้ ที่อยู่ในเขตอุทยาน
แห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่สงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ตามกฎหมาย จึงไม่มีการจัดเก็บข้อมูลตัวอย่างดิน
8) จัดท าแผนที่การกักเก็บคาร์บอนอินทรีย์ในดิน ของปี พ.ศ. 2552 และ 2565 โดยการแบ่ง
ระดับชั้นของปริมาณการกักเก็บคาร์บอนอินทรีย์ในดิน ปรับปรุงจากเกณฑ์การจัดระดับชั้นของอินทรียวัตถุ
ในดินของกรมพัฒนาที่ดิน ดังตารางที่ 6
ตำรำงที่ 6 ระดับปริมำณกำรกักเก็บคำร์บอนในดิน
ระดับกำรกักเก็บคำร์บอน ปริมำณกำรกักเก็บ
ล ำดับ สัญลักษณ์
ในดิน (ตันคำร์บอนต่อไร่)
1 ต่ ามาก 0 – 2
2 ต่ า 2 – 5
3 ปานกลาง 5 – 8
4 ค่อนข้างสูง 8 - 12
5 สูง 12 - 16
6 สูงมาก > 16