Page 13 - การศึกษาศักยภาพและการจัดการดินในพื้นที่ดินเค็มเพื่อการผลิตพืชสมุนไพรประจำท้องถิ่นไปสู่การรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม พี จี เอส กรณีศึกษาในพื้นที่ดินเค็มของจังหวัดนครราชสีมา Study of Soil quality and management of Saline Soil for local Herb production to Participatory Guarantee Systems (PGS) , Case study in Nakhon Ratchasima province.
P. 13
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
13
น่าจะได้มีการศึกษาในประเด็นต่อไปนี้คือ
1) ชนิดและปริมาณการให้ปุ๋ยที่มีผลต่อผลผลิตและปริมาณสารออกฤทธิ์
2) ความเข้มข้นของแสงที่มีผลต่อผลผลิตและปริมาณสารออกฤทธิ์
3) บทบาทของฤดูปลูกที่มีผลต่อผลผลิตและปริมาณสารออกฤทธิ์
4) อิทธิพลของการเขตกรรมที่มีผลต่อผลผลิตและปริมาณสารออกฤทธิ์
5) ความสัมพันธ์ระหว่างผลผลิตและปริมาณสารออกฤทธิ์กับความชื้นในดิน
2.6 ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม Participatory Guarantee Systems , PGS มูลนิธิเกษตร
อินทรีย์ไทย ,2559 ได้รายงานไว้ ดังนี้
2.6.1 ความหมายการรับรองแบบมีส่วนร่วม Participatory Organic Guarantee System (PGS)
เป็นการรับประกันคุณภาพผลผลิตอินทรีย์โดยชุมชนที่เหมาะสมกับสภาพภูมิสังคมวิถีชีวิตวัฒนธรรมและการเกษตร
ของท้องถิ่นโดยมีเป้าหมายการผลิตเพื่อจำหน่ายในชุมชนหรือจำหน่ายตรงเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้
ส่วนเสียได้แก่ผู้ผลิตผู้ประกอบการนักพัฒนานักวิชาการและผู้บริโภคซึ่งอยู่นอกระบบการรับรองโดยบุคคลที่ 3 หรือ
หน่วยตรวจรับรอง PGS เป็นกระบวนการที่ไม่มีสูตรสำเร็จขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีเป็นการพัฒนากระบวนการรับประกัน
ความเป็นอินทรีย์ในระดับชุมชนโดยอาศัยกระบวนการทางสังคมการมีส่วนร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความซื่อสัตย์
ไว้วางใจโปร่งใสความเชื่อมั่นและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจากเวทีของผู้มีส่วนได้
ส่วนเสียโดยให้มีเอกสารหรือให้เกษตรกรกรอกแบบฟอร์มน้อยที่สุด (เรียบเรียงจาก IFOAM,2008)
2.6.2 ความสำคัญของการมีระบบรับรองแบบมีส่วนร่วม “เกษตรอินทรีย์” เป็นกลยุทธ์ในการ
ขับเคลื่อนเกษตรกรรายย่อยเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและแก้ปัญหาต่างๆได้แก่ด้านสิ่งแวดล้อมด้านเศรษฐกิจชุมชน
ความมั่นคงทางอาหารลดความยากจนและสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศตามที่องค์กรที่
เกี่ยวกับการพัฒนาการเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติ (FAOและ IFAD) ได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆมีนโยบาย
เกษตรอินทรีย์และเกษตรอินทรีย์ไม่ได้จำกัดว่าต้องได้รับการรับรองจากหน่วยตรวจรับรองเท่านั้นแต่เป็นการเกษตร
ทางเลือกสำหรับเกษตรกรรายย่อยเรียกว่า“non certified organic” ซึ่งหมายถึงระบบการเกษตรทุกชนิดที่ใช้
กระบวนการธรรมชาติมากกว่าการพึ่งปัจจัยจากภายนอกและการผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพและส่งเสริมเศรษฐกิจ
ชุมชนเน้นการผลิตเพื่อยังชีพผลผลิตที่มากเกินพอจึงจำหน่ายให้เพื่อนบ้านและตลาดท้องถิ่นที่ผู้ผลิตและผู้บริโภค
สื่อสารกันได้โดยตรงซึ่งการปฏิบัติของผู้ผลิตเป็นไปตามหลักการเกษตรอินทรีย์แต่ไม่เน้นการขอการรับรองจากบุคคล
ที่ 3เนื่องจากการตรวจรับรองโดยหน่วยตรวจรับรองมีค่าใช้จ่ายสูงไม่คุ้มกับผลผลิตที่มีไม่มากพอและเป็นกระบวนการ
ยุ่งยากในการทำระบบเอกสาร
ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์มีความเป็นสากลและมีมาตรฐานกฎระเบียบควบคุมอยู่การติดฉลากคำว่า
“อินทรีย์” บางประเทศเป็นกฎหมายบังคับว่าจะต้องได้รับการตรวจรับรองจากหน่วยรับรองตามมาตรฐานเกษตร
อินทรีย์บางประเทศไม่บังคับแต่ผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ในประเทศกำลังพัฒนาส่วนมากเป็นเกษตรกรรายย่อยต่อมา
IFOAM ได้คิดกระบวนการรับรองแบบกลุ่ม(Grower Group Certification) ขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายการตรวจรับรองแต่
ก็ยังเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนสำหรับผู้ผลิตที่เป็นเกษตรกรรายย่อยหรือผู้ที่ปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ใหม่
กระบวนการรับรองแบบมีส่วนร่วม(Participatory Guarantee System,PGS)เป็นแนวทางหนึ่งในการรับประกัน
ความเป็นอินทรีย์เป็นกระบวนการทางสังคมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อปรับปรุงสภาพภูมิสังคมของท้องถิ่นและสร้าง
แรงจูงใจให้กับเกษตรกรรายย่อยเป็นผู้ผลิตและผู้ประกอบการในการพัฒนาตลาดท้องถิ่นซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถแยก
ผลิตภัณฑ์อินทรีย์จากสินค้าปกติได้ “กระบวนการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม” เป็นกระบวนการเบื้องต้นที่
จะส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเข้าสู่การผลิตมากขึ้นนำไปสู่การสร้างตลาดทางเลือกเศรษฐกิจอาหารท้องถิ่นและใช้
พลังงานในการผลิตและการขนส่งอาหารสั้นลงและสร้างสังคมชุมชนให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเกื้อกูลส่งผลให้เกิด
การพัฒนาอย่างยั่งยืน