Page 9 - เทคโนโลยีการจัดการดินเพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์มันแกวที่มีปริมาณและคุณภาพที่ดีที่เหมาะสมในดินทราย จังหวัดมหาสารคาม
P. 9
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
7
ความสามารถสูงในการยอยสลายวัสดุเหลือใชจากการเกษตร เพื่อผลิตปุยหมักในชวงระยะเวลาอันสั้น
ประกอบดวยเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแอคติโนมัยซีสและเชื้อรา (กรมพัฒนาที่ดิน, 2551)
ประโยชนของปุยหมัก
สมบัติทางกายภาพของดิน: ดินรวนซุย การจับตัวเปนกอนอุมน้ําดีขึ้น
สมบัติทางเคมีของดิน: แหลงธาตุอาหารพืชเพิ่มประสิทธิภาพของปุยเคมี คาความเปนกรดเปนดางของ
ดินคงที่ ลดความเปนพิษของธาตุบางชนิด เชน แมงกานีส หรืออลูมินั่ม
สมบัติทางชีวภาพของดิน: เพิ่มแหลงอาหารของจุลินทรียดิน ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืชในดินปรับสภาพ
ดิน และน้ําใหเหมาะสมในบอเลี้ยงกุงหรือบอปลา (กรมพัฒนาที่ดิน, 2553)
จากการศึกษาของ Goyal (1998) และ Dauden et al. (2004) พบวา การใสปุยอินทรียเปนวัสดุ
ปรับปรุงดิน เชน มูลหมูและปุยคอกชนิดตาง ๆ มีความสําคัญตอการเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุไนโตรเจน ซึ่งเปนสิ่ง
สําคัญในการเพิ่มความอุดมสมบูรณและปรับโครงสรางดิน การใสวัสดุปรับปรุงดินประเภทอินทรียวัตถุ จะเพิ่ม
ความเปนประโยชนของธาตุอาหารพืชไดมากกวาการใสปุยเคมีแตเพียงอยางเดียว จากการศึกษาดังกลาว จึงควร
กําหนดอัตราการใชปุยอินทรียใหกับดิน ตามความจําเปนตอการใชธาตุอาหารของพืชแตละชนิด
มันแกว (Jícamaหรือ Yam bean) จัดเปนพืชไร พืชลมลุก และเปนพืชตระกูลถั่วมีชื่อวิทยาศาสตรวา
"Pachyrhizuserosus(L.) Urbar" ลักษณะตนเปนเถาเลื้อย ยาวมากกวา 3-10 เมตร ลักษณะลําตนเปนเถาสีเขียว
ออน เขียวแกจนถึงเขียวออกน้ําตาลตามอายุของตน และมีขนปกคลุม หัวอวบใหญใตดิน เปนรากสะสมอาหารใบ
ประกอบดวย 3 ใบยอยมีจักใหญ ดอกมีสีขาวหรือชมพูเปนชอ เมล็ดมีสีเหลือง สีน้ําตาล หรือสีแดงลักษณะ
สี่เหลี่ยมจตุรัสแบน โดยตนมันแกว 1 ตนมีเพียงหัวเดียว สวนที่ใชรับประทานคือสวนของรากแกวเนื้อของมันแกว
ใชรับประทานเพื่อชวยลดพิษ ลดไข อาการปวดศรีษะ แกความดันโลหิตสูง ใชแกพิษสุราเรื้อรัง แกเลือดออกตาม
ไรฟน บํารุงรางกาย เนื่องดวยมีวิตามินซีมากพอสมควร (หัวมันแกว 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 15 มิลลิกรัม)
มันแกวเปนพืชที่มีถิ่นกําเนิดในหลายพื้นที่เชนในแถบอเมริกากลางแอฟริกาตะวันออก และในประเทศแถบ
ทวีปเอเชียคือ ฟลิปปนส อินเดีย จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ในประเทศไทยมันแถวมีอยู 2 ชนิดคือ พันธุหัวใหญ
และพันธุหัวเล็ก อาจจะมีชื่อเรียกตางกันไปตามแตภูมิภาคไดแก ภาคใตเรียกวา "หัวแปะกัวะ" ภาคเหนือเรียกวา
"มันละแวก" "มันลาว" สวนภาคอีสานเรียกวา "มันเพา" นอกจากนี้ยังอาจเรียกดวยชื่ออื่นๆ เชน "เครือเขาขน"
"ถั้วบง" และ"ถั่วกินหัว"
สวนใบของมันแกวมีคุณสมบัติในการรักษาโรคผิวหนังเชน กลาก เกลื้อน และยังเปนยาถายพยาธิที่มี
สรรพคุณดีตัวหนึ่ง สวนหัวของมันแกว (รากแกว) เปนสวนที่ใชรับประทาน ลักษณะภายนอกมีสีน้ําตาลออน
ภายในมีสีขาว เมื่อเคี้ยว รูสึกกรอบคลายลูกสาลี่สดอีกทั้งยังมีรสคลายแปงแตออกหวาน โดยทั่วไปจะรับประทาน
สดๆ หรือจิ้มกับพริกเกลือ แลวยังสามารถนําไปประกอบอาหารไดทั้งคาวและหวานอีกดวย เชน แกงสม แกงปา
ผัดเปรี้ยวหวาน ผัดไข ทําสลัด เปนสวนผสมของไสซาลาเปาและทับทิมกรอบแตในทางกลับกัน ตนมันแกว
สามารถใชเปนยากําจัดศัตรูพืชโดยใชสวนของเมล็ด ฝกแก ลําตน และราก แตสวนเมล็ดจะมีสารพิษมากที่สุด ทํา
ใหมีประสิทธิภาพในการกําจัดแมลงดีที่สุด นอกจากนั้นถามนุษยรับประทานเมล็ดเขาไปจะทําใหเกิดอาการคลื่นไส
อาเจียน ซึ่งถาไดรับในปริมาณมาก สารพิษ Routinone จะกระตุนระบบหายใจ แลวกดการหายใจ ชัก และอาจ
เสียชีวิตได (วิกิพีเดีย, 2549) การรับประทานเมล็ดมันแกวเพียงครึ่งเมล็ดสามารถชวยเปนยาระบาย ยาถายพยาธิ
แตมักมีอาการขางเคียง เชน คลื่นไส อาเจียน วิงเวียนศรีษะ ในประเทศอินโดนีเซียมีการใชผงจากเมล็ดมันแกวทา