Page 11 - เทคโนโลยีการจัดการดินเพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์มันแกวที่มีปริมาณและคุณภาพที่ดีที่เหมาะสมในดินทราย จังหวัดมหาสารคาม
P. 11
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
9
โรคที่พบสวนใหญในระบบการผลิตมันแกว ไดแก โรคโคนเนา และหัวเนา คิดเปนรอยละ 75 และ 25
แมลงที่พบสวนใหญ คือ เสี้ยนดิน ดวง/ดวงเตาทอง และหนอนกินใบ/มวนใบ คิดเปนรอยละ 84 28 และ 16
ตามลําดับ และเกษตรกรสวนใหญไมมีการกําจัดศัตรูพืชเนื่องจากยังขาดเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปองกันกําจัด
มีเพียงสวนนอยที่มีการปองกันกําจัด เชน การใชมือบีบ ปูนขาว หรือใชสารเคมี เชน เลนเนทฟอสดิน และฟูรา
ดาน (อนุชา และคณะ, 2554)
เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามสวนใหญมีการปลูกมันแกวทั้งที่เปนที่ดอนซึ่งเปนพื้นที่ไรและที่ลุมซึ่ง
เปนพื้นที่นา แตเกษตรกรมักจะปลูกในพื้นที่ลุมซึ่งเปนพื้นที่นาหลังเก็บเกี่ยวขาวเปนสวนใหญ ลักษณะดินสวนใหญ
เปน ดินเหนียวปนทราย ดินทรายปนรวน รวนปนทราย ดินทราย มีแหลงน้ํา เพื่อใชในการปลูกมันแกวในชวงฤดู
แลง เกษตรกรเกือบทุกรายใชพันธุเบา สวนใหญนําเมล็ดพันธุมาจากแหลงปลูกจังหวัดจันทบุรี ฤดูกาลปลูกมี 3
ชวง ไดแก ชวงแรกจะเริ่มปลูกในชวงเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน ชวงที่สอง จะเริ่มปลูกในชวงเดือน
พฤษภาคม ถึง เดือนสิงหาคม และชวงที่สามจะเริ่มปลูกในชวงเดือนกันยายน ถึงเดือนธันวาคม ซึ่งเปนชวงที่
เกษตรกรมีการปลูกมากที่สุด ระบบการปลูกจะเปนการปลูกแบบหมุนเวียนมีการสลับพื้นที่ปลูกหรือพืชปลูก
หมุนเวียนกันไป สวนการเตรียมดินเกษตรกรมีการเตรียมดินคอนขางดี เพราะสวนใหญมีการไถเตรียมดิน 2-3 ครั้ง
ระยะปลูกที่ใชสวนใหญจะใชระยะ 10x10 เซนติเมตร โดยจะปลูกบนสันรองกวางประมาณ 70 เซนติเมตร มีระยะ
ระหวางรอง 90 เซนติเมตรกนรองกวาง 20 เซนติเมตรจะได 6 แถว มีจํานวนตนตอไรประมาณ 84,000 ตนตอไร
เกษตรกรสวนใหญมีการกําจัดวัชพืชโดยวิธีกล คือดายหญา โดยเริ่มตั้งแตมันแกวเริ่มงอกจนกระทั่งถึงอายุ
ประมาณ 90 วัน สวนการใสปุยเกษตรกรมีการใสทั้งปุยอินทรีย ปุยเคมี และสารชนิดอื่นๆ โดยการใสปุยอินทรีย
จะเปนปุยคอก หวานในอัตรา 500-1,000 กิโลกรัมตอไร กอนไถแปรครั้งที่ 2 และสวนใหญมีการใสปุยเคมีสูตร
15-15-15 โดยแบงใส 2 ครั้ง มีเพียงสวนนอยที่ใสปุยเคมีสูตร 16-8-8 โดยสวนใหญใสโดยวิธีหวานในอัตราเฉลี่ย
25.7 กิโลกรัมตอไร เปนรองพื้น เมื่อมันแกวอายุ 1 เดือน จึงใสปุยครั้งที่ 2 อัตรา 22.9 กิโลกรัมตอไร การปฏิบัติ
หลังเก็บเกี่ยวเกษตรกรสวนใหญจําหนายในรูปหัวมันแกวสด ราคาหัวมันแกวสดเฉลี่ยอยูที่ 12 บาทตอกิโลกรัม
มันแกวที่อายุเก็บเกี่ยวเร็ว หัวมันแกวจะมีปริมาณน้ําสูง ปริมาณแปงต่ํา ปริมาณน้ําตาลสูง แตถาเก็บเกี่ยวลา
ออกไป การสะสมแปงในหัวมันแกวจะสูงขึ้น ความหวานลดลง ปริมาณน้ําลดลง ซึ่งจะมีผลตอการนําไปใช
ประโยชนในการแปรรูปตอไป (อนุชา และคณะ, 2554)
จันทรสุดา และคณะ (ม.ป.ป.) ศึกษาสภาพการผลิตและความตองการการสงเสริมการผลิตมันแกวของ
เกษตรกรในอําเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พบวา สภาพการผลิตมันแกวของเกษตรกรสวนใหญปลูกปละ 1
ครั้ง เริ่มปลูกในเดือนพฤศจิกายน และเก็บเกี่ยวในเดือนกุมภาพันธ (ชวงเทศกาลนมัสการพระธาตุพนม) ระบบ
ปลูกเปนพืชเดี่ยวทั้งหมด ในที่สวน ดินรวนปนทราย ทั้งแบบยกรองและไมยกรอง ถาปลูกแบบไมยกรองมีระยะ
ปลูก 15x15 เซนติเมตร ใชเมล็ดพันธุเฉลี่ย 18.16 กิโลกรัมตอไรของพันธุหัวใหญ (หนัก) ที่ผลิตเมล็ดพันธุเอง ให
น้ําจากแหลงน้ําธรรมชาติ 1.46 ครั้งตอรอบการผลิต โดยนับอายุในการเก็บเกี่ยว ขายสงแกพอคาคนกลางและ
ขายปลีกในราคาเฉลี่ย 9.53 และ 13.38 บาทตอกิโลกรัม การเก็บรักษามันแกวที่ดีวิธีหนึ่ง คือ ถาราคายังไมดี ยัง
ไมขุดขึ้นจากดินวิธีนี้จะสามารถทิ้งหัวมันแกวไวในดิน อยางไรก็ตาม เกษตรกรประสบปญหาเมล็ดพันธุมันแกวมี
ราคาสูง ขาดเมล็ดพันธุที่มีคุณภาพดี ขาดความรูในการผลิตเมล็ดพันธุดี และตองการคําแนะนําในการเก็บรักษา
เมล็ดพันธุใหสามารถเก็บไวไดนานขึ้น สวนการศึกษาของ อนุชา และคณะ (2554) และพงศเทพ และคณะ