Page 31 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับให้คำแนะนำปุ๋ยในการปลูกผักในพื้นที่โครงการหลวง
P. 31

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน





                                                                                                        21


                   ตารางที่ 8  ปริมาณไนโตรเจนที่ผักกาดหวานได้รับและประสิทธิภาพการดูดใช้ไนโตรเจนจากปุ๋ยแต่ละ

                              ต ารับการทดลองของผักกาดหวาน พ.ศ. 2556

                         อัตราการใส่ปุ๋ย (กก./ไร่)      ปริมาณ N ที่สะสมใน          L1  ประสิทธิภาพการดูด
                                                        ส่วนเหนือดินทั้งหมด   (N)                      L2
                    ต ารับที่   N     P O      K O            (กก./ไร่)                  ใช้ N จากปุ๋ย (%)
                                       2 5
                                                2
                      1        0        0       0              5.29c

                      2      153.60  76.80  76.80             11.11a            5.82            3.8
                      3      38.36  26.86  41.09              8.74b             3.45            9.0
                      4      10.98      0       0              6.39c            1.10           10.0
                      5      17.39      0       0              6.82c            1.53            8.7
                      6      10.00  5.00       5.00            6.90c            1.61           10.5


                   หมายเหตุ :  L1 (N) ไนโตรเจนที่ผักกาดหวานได้รับจากการใส่ปุ๋ยเคมี = ผลต่างของปริมาณไนโตรเจน
                              ที่สะสมในส่วนเหนือดินทั้งหมดของผักที่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนแต่ละอัตรา กับ
                              ปริมาณไนโตรเจนที่สะสมในส่วนเหนือดินทั้งหมดของผักที่ไม่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีไนโตรเจน

                              L2 ประสิทธิภาพการใช้ N จากปุ๋ยของผัก = (N) x 100 / อัตราการใส่ N

                          จากตารางที่ 8 กล่าวได้ว่าถึงแม้การใส่ปุ๋ยต ารับที่ 2 และ 3 ผักกาดหวานมีผลผลิตของส่วนเหนือ

                   ดินทั้งหมดสูงกว่าการใส่ปุ๋ยต ารับที่ 4 5 และ 6 อย่างมีนัยส าคัญ และปุ๋ยต ารับที่ 2 มีการสะสม ไนโตรเจน
                   ในส่วนเหนือดินสูงกว่าการใส่ปุ๋ยต ารับที่ 3 แต่ผักที่ได้รับปุ๋ยต ารับที่ 2 มีประสิทธิภาพการดูดใช้ไนโตรเจน
                   จากปุ๋ยต่ าที่สุดคือประมาณ 3.8 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดที่มีอยู่ในปุ๋ย ในขณะที่ผักที่ได้รับ
                   ปุ๋ยต ารับที่ 3 4  5  และ 6 มีประสิทธิภาพการดูดใช้ไนโตรเจนจากปุ๋ย 9  10  8.7  และ 10.5  เปอร์เซ็นต์
                   ตามล าดับ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลด้านผลผลิตผักหลังการตัดแต่งและประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยของผักกาด

                   หวานที่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีแต่ละอัตรา กล่าวได้ว่าในปี พ.ศ.  2556 การใส่ปุ๋ยเคมีต ารับที่  3 เป็นอัตราที่
                   เหมาะสมที่สุดเพราะเป็นอัตราปุ๋ยที่ท าให้ผักกาดหวานมีผลผลิตหลังการตัดแต่งดีกว่าการไม่ใส่ปุ๋ยอย่างมี
                   นัยส าคัญและเป็นอัตราปุ๋ยที่ท าให้ผักกาดหวานดูดใช้ปุ๋ยไนโตรเจนไปใช้ได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เมื่อเทียบกับการ

                   ใส่ปุ๋ยอัตราอื่น ๆ
                          เมื่อพิจารณาถึงข้อมูลด้านปริมาณการสะสมฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมในส่วนเหนือดินทั้งหมด
                   ซึ่งในการทดลองนี้ผักกาดหวานในต ารับที่  1  ซึ่งไม่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมี  มีการสะสมฟอสฟอรัสและ
                   โปแตสเซียมในส่วนเหนือดิน 0.67 และ 7.21 กิโลกรัมต่อไร่ตามล าดับ หากถือว่าปริมาณฟอสฟอรัสและ

                   โปแตสเซียมที่สะสมในส่วนเหนือดินทั้งหมดของผักกาดหวานที่ไม่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีหรือได้รับการการใส่
                   ปุ๋ยไนโตรเจนเพียงอย่างเดียวในต ารับที่ 4 และ 5 คือ ฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมที่ผักได้รับจากฟอสฟอรัส
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36