Page 33 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับให้คำแนะนำปุ๋ยในการปลูกผักในพื้นที่โครงการหลวง
P. 33

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน





                                                                                                        23


                   ตารางที่ 9  ปริมาณฟอสฟอรัสที่ผักกาดหวานได้รับและประสิทธิภาพการดูดใช้ฟอสฟอรัสจากปุ๋ยแต่ละ
                              ต ารับการทดลองของผักกาดหวาน พ.ศ. 2556


                         อัตราการใส่ปุ๋ย (กก./ไร่)      ปริมาณ P ที่สะสมใน          L1  ประสิทธิภาพการดูด
                                                         ส่วนเหนือดินทั้งหมด   (P)                     L2
                    ต ารับที่   N     P O      K O            (กก./ไร่)                  ใช้ P จากปุ๋ย (%)
                                                2
                                       2 5
                      1        0        0       0              0.67c

                      2      153.60  76.80  76.80              1.10a            0.43           1.28
                      3      38.36  26.86  41.09              1.02ab            0.35           2.98
                      4      10.98      0       0             0.84ab            0.17
                      5      17.39      0       0              0.76c            0.09
                      6      10.00  5.00       5.00           0.86bc            0.19           8.72


                   หมายเหตุ :  L1 (P) ปริมาณฟอสฟอรัสที่ผักกาดหวานได้รับจากการใส่ปุ๋ยเคมี = ผลต่างของปริมาณ
                              ฟอสฟอรัสที่สะสมในส่วนเหนือดินทั้งหมดของผักที่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีฟอสฟอรัสแต่ละอัตรา
                              กับปริมาณฟอสฟอรัสที่สะสมในส่วนเหนือดินทั้งหมดของผักที่ไม่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมี

                              ฟอสฟอรัส
                              L2 ประสิทธิภาพการใช้ P จากปุ๋ยของผัก = (P) x 100 / อัตราการใส่ P


                          ในส่วนของปริมาณโปแตสเซียมที่ผักกาดหวานได้รับจากการใส่ปุ๋ยแต่ละต ารับก็มีลักษณะ
                   เช่นเดียวกันกับฟอสฟอรัสที่ผักกาดหวานได้รับ กล่าวคือ ผักกาดหวานที่ได้รับการใส่ปุ๋ยต ารับที่ 4  และ 5
                   ซึ่งเป็นต ารับที่ไม่มีการใส่ปุ๋ยโปแตสเซียมก็มีการสะสมโปแตสเซียมในส่วนเหนือดินทั้งหมดมากกว่าผักกาด
                   หวานที่ไม่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีในต ารับที่ 11.41  และ 0.55  กิโลกรัมต่อไร่ จึงคาดว่าการใส่ปุ๋ยการใส่ปุ๋ย
                   ไนโตรเจนน่าจะส่งเสริมการเจริญของรากและมีผลท าให้ผักกาดหวานที่ได้รับปุ๋ยต ารับที่ 4 และ 5 มีการดูด

                   ใช้ฟอสฟอรัสจากดินได้สูงกว่าผักกาดหวานที่ไม่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีซึ่งสอดคล้องกับ  Yeshiwas  et  al.
                   (2018) ที่พบว่า ผักสลัดที่ได้รับการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน มีการเจริญเติบโตของรากมากกว่าผักสลัดที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ย
                   ไนโตรเจนอย่างมีนัยส าคัญ ส าหรับผักกาดหวานที่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีต ารับที่ 2 3 และ 6 แม้ว่าจะมีการดูด

                   ใช้โปแตสเซียมเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับผักกาดหวานในต ารับที่ 1  แต่เมื่อประเมินประสิทธิภาพการดูดใช้
                   โปแตสเซียมจากปุ๋ย พบว่า ผักกาดหวานที่ได้รับการใส่ปุ๋ยเคมีต ารับที่ 2 3 และ 6 มีประสิทธิภาพการดูดใช้
                   โปแตสเซียมจากปุ๋ยที่ใส่ลงไปในดิน 5.98 7.12 และ 23.13 เปอร์เซ็นต์ตามล าดับ และปริมาณโปแตสเซียม
                   ที่สะสมในส่วนเหนือดินทั้งหมดของผักกาดหวานที่ได้รับปุ๋ยทั้ง 3 ต ารับต่ ากว่าปริมาณโปแตสเซียมทั้งหมด

                   ที่มีอยู่ในปุ๋ยจึงอาจกล่าวได้ว่าในการปลูกผักกาดหวานในโรงเรือน ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงซึ่ง
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38